ยุทธการ X-RAY OUTLAW FOREIGNER ครั้งที่ 7 ทลายเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติและการท่องเที่ยว(มีคลิป)

ตามนโยบายของรัฐบาล ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขันจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมที่กระทบ กับความมั่นคงส่งผลต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น กลุ่มเครือข่ายปลอมธนบัตร (Black Money) กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงแต่งงาน (Romance Scam) กลุ่มเครือข่ายผลิตและปลอมบัตรเครดิต (Skimming) กลุ่มคนหลอกลวงนำเพชรปลอมมาจำหน่าย กลุ่มชาวต่างชาติที่ตั้งตัวเป็นกลุ่มกระทำผิดอาชญากรรมต่างๆ และยาเสพติด รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่ในประเทศโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนาวิธีการกระทำความผิดให้มีความซับซ้อน และหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่รัฐ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้สนองนโยบายรัฐบาล กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวโดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท., พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2, พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบก.ทท.1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวทุกสถานีปฏิบัติการออกระดมกวาดล้างอาชญากรรม และบูรณาการกำลังจากหน่วยงานภาครัฐหลายฝ่ายประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191, หน่วยอรินทราช 26, หน่วยรบพิเศษสยบไพรี จากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ สน.ชนะสงคราม ได้ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย โดยผิดกฎหมาย จำนวน 123 เป้าหมาย ทั่วประเทศ สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 82 ราย มีรายละเอียด ดังนี้ 1.จับกุมข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยสิ้นสุดการอนุญาต” จำนวน 13 ราย (สัญชาติ อินเดีย 3 ราย, ลาว 3 ราย, เวียดนาม 2 ราย, ไนจีเรีย 2 ราย, กัมพูชา 1 ราย, ลาว 1 ราย, มาเลเซีย 1 ราย) อันดับที่ 1 Mr.Nandlal อายุ 47 ปีอินเดีย 962 วัน(กาญจนบุรี) อันดับที่ 2 นาย จิว ตัว เกีย อายุ 58 ปีมาเลเซีย 473 วัน(สงขลา) อันดับที่ 3 Mr.Youly Nouphengdy อายุ 20 ปีลาว 100 วัน(อุดรธานี) 2.จับกุมข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จำนวน 62 ราย (สัญชาติลาว 26 ราย, เมียนมา 24 ราย, อินเดีย 4 ราย, กัมพูชา 4 ราย, เวียดนาม 2 ราย, ปากีสถาน 1 ราย, ไลบีเรีย 1 ราย) 3.จับกุมข้อหาอื่นๆจำนวน 10 ราย (สัญชาติไทย 3 ราย, อินเดีย 2 ราย, เมียนมา 1 ราย, ไนจีเรีย 1 ราย) ในการตรวจสอบครั้งนี้ ได้ทำการตรวจสอบเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 123 เป้าหมาย แบ่งเป็นเป้าหมายโรงเรียนนานาชาติ 11 เป้าหมาย, สถาบันสอนภาษา 21 เป้าหมาย, โรงเรียนสามัญ 55 เป้าหมาย, รวมจำนวน 87 เป้าหมาย และเป้าหมายอื่นๆ จำนวน 36 เป้าหมาย จากการตรวจสอบสถานศึกษาครั้งนี้ ไม่พบสถานศึกษาที่จ้างชาวต่างชาติผิดกฎหมายมาเป็นครูสอนภาษาต่างประเทศแต่อย่างใด ถือได้ว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและให้ความร่วมมือกับทางราชการเป็นอย่างดี โดยทาง บช.ทท. จะดำเนินการตรวจสอบสถานศึกษาเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่องต่อไปถนนข้าวสารเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจะมาเล่นน้ำสงกรานต์ ตำรวจท่องเที่ยว จึงมีการตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุและเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวรวมยุทธการ 21 ครั้ง ตรวจค้นเป้าหมาย 2,877 เป้าหมาย จับกุมผู้กระทำความผิดได้ ทั้งหมด 720 ราย

ตามนโยบายรัฐบาลและการปฏิบัติการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยาเสพติดเป็นภัยคุกคาม เป็นหนึ่งในปัญหาของชาติที่สำคัญ ต้องดำเนินแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบหมายนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ทท. ,พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.๑ บช.ทท. ,พล.ต.ต.เสนิต สำราญ สำรวจกิจ ผบก.น.๑ ,พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท. ,พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท. ,พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น. ,พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.1 ,พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร รอง ผบก.น.๑ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจับกุมระดมกวาดล้างจับกุมคนร้ายผิวสี โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี รอง ผกก.สส.บก.น.๑ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ รอง ผกก.สส.บก.น.๑ พร้อมด้วย พ.ต.ท.คุณประโยชน์ อารีย์รัตนะนคร สว.กก.สส.บก.น.๑ ,พ.ต.ต.กฤษฎา นาคประสิทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.๑ ,ร.ต.อ.เอกยุทธ อดิสร ,ร.ต.อ.ศุภชัย สงวนสิทธิ์ ,ร.ต.อ.วุฒิไกร เหล่าหา ,ด.ต.ธนกร แหวนวงศ์ ,ด.ต.สุจินต์ เครือแสง ,ด.ต.เกียรติพงษ์ สุวรรณศักดิ์ ,ด.ต.หญิงฟ้ารุ่ง แอคคาน ,ด.ต.ประหยัด สุจะชารี ,ด.ต.รัชเดช มหายศนันท์ ,จ.ส.ต.เฉลียว จันทรรัตน์, จ.ส.ต.อนุชา พวงพิลา ผบ.หมู่ ชุดปฏิบัติ ชปส.บก.น.๑ กับพวกได้ร่วมกันจับกุม นายมีคเน็ทส์ ชิกาโอด โอซอนดู (MR.MEEKNESS CHIKADOI OSONDU) อายุ ๓๕ ปี สัญชาติไนจีเรีย หมายเลขหนังสือเดินทาง เลขที่ A03814871 สถานที่จับกุม บริเวณกลางซอยสุขุมวิท ๑๓ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. พร้อมด้วยของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด จำนวน ๑ รายการ ดังนี้ ๑. โคเคน น้ำหนัก ประมาณ ๕ กรัม ๒. รถยนต์เก๋ง รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น CORALLA ALTIS สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กจ ๖๖๘๒ ยโสธร ๓. แผ่นป้ายทะเบียนปลอม หมายเลขทะเบียน กจ.๖๖๘๒ ยโสธร ๔. แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี(แผ่นป้ายวงกลม)ปลอม หมายเลขทะเบียน กจ.๖๖๘๒ ยโสธร โดยมีพฤติการณ์ในการตรวจค้น/จับกุม ดังนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า พื้นที่ซอยสุขุมวิท ๑๓ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. มีชาติต่างชาติผิวสีดำลักลอบจำหน่ายยาเสพติด(โคเคน) โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น CORALLA ALTIS สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กจ ๖๖๘๒ ยโสธร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบ ผู้ต้องหาพร้อมรถยนต์คันกล่าว จอดบริเวณกลางซอยสุขุมวิท ๑๓ จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ผลปรากฏว่า ผู้ต้องหาได้นำยาเสพติดเข้าไปภายในปากของตนเอง แล้วกลืนลงไปในท้อง จากนั้นผู้ต้องหาได้มีอาการผิดปกติจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ผลตรวจทางการแพทย์และเอ็กซ์เรย์ปรากฏว่าพบวัตถุทรงกลมเป็นก้อน จำนวน ๕ ก้อน เมื่อนำออกจากท้องแล้ว ตรวจสอบพบเป็นโคเคน น้ำหนักประมาณ ๕ กรัม และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวปรากฏว่าไม่พบข้อมูลทางทะเบียน จึงทำการจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม กอล์ฟ by กะฉ่อน รายงาน