ข่าวพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส.ร่วมแถลงผลปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 เพื่อระดมกวาดล้างจับกุม นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ยึดทรัพย์ได้ทั้งสิ้น 285,515 - kachon.com

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส.ร่วมแถลงผลปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 เพื่อระดมกวาดล้างจับกุม นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ยึดทรัพย์ได้ทั้งสิ้น 285,515
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ร่วมแถลงผลปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 เพื่อระดมกวาดล้าง ปราบปราม จับกุม นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ยึดทรัพย์ได้ทั้งสิ้น 285,515,298 บาท(มีคลิป)

วันที่ 7 มี.ค.61 เวลาประมาณ 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ร่วมแถลงผลปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/4 เพื่อระดมกวาดล้าง ปราบปราม จับกุม นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องสืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้กำหนดแผนปฏิบัติการ ชัยยะ สยบไพรี 61/1-3 ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง และตรวจยึดทรัพย์สินได้จำนวนมาก และได้สืบสวนขยายผลไปถึงกลุ่มหรือเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังโดยกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นตัวการสำคัญที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ส่งผลให้ขบวนการค้ายาเสพติดยังคงมีอยู่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงได้กำหนด “แผนปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 61/4” เพื่อดำเนินการกวาดล้าง ปราบปราม จับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมทั้งกลุ่มหรือเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้หมดสิ้น และทำลายเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด กำหนดการปฏิบัติการในห้วงวันที่ 19 ก.พ.– 7 มี.ค.2561 โดยการปฏิบัติการปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่

 

สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้กำหนดแผนปฏิบัติการ ชัยยะ สยบไพรี 61/1-3 ซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง และตรวจยึดทรัพย์สินได้จำนวนมาก และได้สืบสวนขยายผลไปถึงกลุ่มหรือเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังโดยกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นตัวการสำคัญที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ส่งผลให้ขบวนการค้ายาเสพติดยังคงมีอยู่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงได้กำหนด “แผนปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 61/4” เพื่อดำเนินการกวาดล้าง ปราบปราม จับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมทั้งกลุ่มหรือเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้หมดสิ้น และทำลายเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด กำหนดการปฏิบัติการ ในห้วงวันที่ 19 ก.พ.– 7 มี.ค.2561 โดยการปฏิบัติการปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และปฏิบัติการต่อเป้าหมายสำคัญจำนวน 91 เป้าหมาย ในพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้ กองบัญชาการตำรวจ นครบาล จำนวน 26 เป้าหมาย ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 17 เป้าหมาย ตำรวจภูธรภาค 2 จำนวน 4 เป้าหมาย ตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 5 เป้าหมาย ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 13 เป้าหมาย ตำรวจภูธรภาค 5 จำนวน 5 เป้าหมาย ตำรวจภูธรภาค 6 จำนวน 10 เป้าหมาย ตำรวจภูธรภาค 7 จำนวน 6 เป้าหมาย ตำรวจภูธรภาค 9 จำนวน 5 เป้าหมาย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญ 4 เครือข่าย ได้แก่

1. เครือข่าย (ไอซ์) ข้ามชาติรายใหญ่ เป้าหมายนายฮาร์ปรีท ซิงห์ ผู้ทำหน้าที่ด้านการเงินให้กับกลุ่มเครือข่าย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค.60 บก.ปส.2 ได้จับกุมนายโกศล ศรีมงคล ผู้ต้องหา (ไอซ์) ข้ามชาติ กับพวกรวม 5 ราย พร้อมของกลางไอซ์ 400 กก. ที่ จว.ขอนแก่น ได้ทำการสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มผู้รับยาเสพติดทางภาคใต้จำนวน 3 คน จับกุมผู้สั่งการที่ จว.หนองคาย 2 คน และ จว.ระยองอีก 2 คน รวมผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้งสิ้น 12 คน โดยลักลอบลำเลียงยาเสพติด(ไอซ์) จากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สามที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย หลังจากนั้น สืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน จนสืบทราบพบว่ามี นายฮาร์ปรีท ซิงห์ ชาวไทย (สัญชาติเดิม อินเดีย) ทำหน้าที่โอนเงินให้กับบุคคลในเครือข่ายดังกล่าว จึงขออนุมัติออกหมายจับและหมายค้นเพื่อจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินพร้อมพยานหลักฐานต่างๆ จำนวน 30 เป้าหมาย (หน่วยปฏิบัติการ บก.ปส.2, ขส., บช.ก., ปปส., ปปง., เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่)

2. เครือข่าย นายธีรพล เจริญสวัสดิ์ จากพฤติการณ์ที่พบ ผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่มักจะตั้งเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีจำนวนหลายคน มีหัวหน้ากลุ่มที่มีอิทธิในพื้นที่ หรือเป็นที่รู้จักในโซเชียลมีเดีย มีฉายาเป็นที่รู้จักมีลายสักที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มตนเอง มีการเผยแพร่กิจกรรมของตนเองผ่านโซเชียลฯ จนเกิดค่านิยมเลียนแบบในกลุ่มเยาวชน เป็นบ่อเกิดปัญหาทางสังคมในภาพรวม จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มของนายธีรพล เจริญสวัสดิ์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยมีแหล่งที่มาของยาเสพติดจากภาคเหนือ นำมาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดสงขลา จนมีทรัพย์สินจำนวนมากและเกินฐานะ ในปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 61/4 บก.ปส.4 จึงกำหนดเป้าหมายการปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 14 เป้าหมาย 15 จุดตรวจค้น (หน่วยปฏิบัติการ บก.ปส.4., บช.ก., ปปส., ปปง., เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่)

3. เครือข่าย นายวันเฉลิม กมลเลิศ หรือ โน๊ต ดินแดง, นายณัฐวุฒิ นิลทัด และเครือข่ายยาบ้า 40,000 เม็ด ไอซ์ 2 กก. สืบเนื่องจาก บก.ขส. ได้ขยายผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ จว.ปทุมธานี จว.นนทบุรี และ จว.ระยอง ซึ่งมีความเชื่อมโยงทางการเงินของเครือข่ายนายวันเฉลิม กมลเลิศ หรือ โน๊ต ดินแดง, นายณัฐวุฒิ นิลทัด และเครือข่ายยาบ้า 40,000 เม็ด ไอซ์ 2 กก. ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเป็นนักค้ายาเสพติดที่มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออก อีกทั้งมีการรับทำธุรกรรมทางการเงินให้กับกลุ่มนักค้า

4. เครือข่าย ด.ต.จิตรภานุ สุวรรณวกุล(ดาบสม) จากการร้องเรียนว่ามีข้าราชการตำรวจ มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติด (ยาบ้า) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 จึงได้ทำการสืบสวนติดตาม พบ ด.ต.จิตรภานุ สุวรรณวกุล(ดาบสม) กับพวก มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จึงได้ทำการล่อซื้อยาเสพติดจาก ด.ต.จิตรภานุฯกับพวก ได้และนำยาเสพติดดังกล่าวร้องทุกข์ต่อ พงส.จนสามารถออกหมายจับ ด.ต.จิตรภานุ ฯกับพวก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ได้ทำการจับกุม ด.ต.จิตรภานุฯ กับพวก รวม 2 คน พร้อมทำการตรวจยึดทรัพย์สิน ประมาณ 7 (หน่วยปฏิบัติการ บก.ปส.3., บช.ก., ปปส., ปปง., เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่)

ปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 61/4 มีหน่วยงานเข้าร่วมปฏิบัติในภารกิจครั้งนี้ คือ
1. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กำลังพลที่เข้าร่วม จำนวน 700 นาย
2. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กำลังพลที่เข้าร่วม จำนวน 250 นาย
3. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน 50 นาย
4. หน่วยงานอื่นๆ ได้แก่
- เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ บช.น. ภ.1 – 7, 9 ตชด. และ ทท.
- สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
- กรมศุลกากร
- กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี
- ทัพเรือภาคที่ 2
- กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
- สำนักพระพุทธศาสนา
- ฝ่ายปกครอง รวมจำนวน 450 นาย
รวมทั้งสิ้น 1,450 นาย

ผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 61/4 (ระหว่างวันที่ 19 ก.พ. – 7 มี.ค.2561)
การจับกุมรวมทั้งสิ้น 29 คดี 42 คน โดยมีผู้ต้องหาที่สำคัญและน่าสนใจ 3 รายคือ
1. นายฮาร์ปรีท ซิงห์ ผู้ทำหน้าที่ด้านการเงินให้กับกลุ่มเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติรายใหญ่ โดยสามารถจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินได้ ประมาณ 258 ล้านบาท
2. ด.ต.จิตรภานุ สุวรรณวกุล(ดาบสม) ข้าราชการตำรวจซึ่งมีพฤติการณ์ค้ายาบ้า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ได้ทำการจับกุม ด.ต.จิตรภานุฯ กับพวก รวม 2 คน พร้อมทำการตรวจยึดทรัพย์สิน ประมาณ 7 ล้านบาท
3. บก.ปส.3 ได้ ตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณี พระมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดที่วัดแห่งหนึ่ง จากการตรวจค้นสามารถจับกุมพระ 1 รูป พร้อมของกลางกัญชา 2 ห่อเล็ก ไอซ์จำนวน 2 ห่อเล็ก พร้อมอุปกรณ์การเสพ และตรวจปัสสาวะพบพระที่มีสารเสพติดจำนวน 4 รูป

การตรวจยึดของกลาง ได้แก่
- ยาบ้า 2,152,001 เม็ด
- กัญชา 1,590 กิโลกรัม
- โคเคน 2.05 กิโลกรัม
- ปืน 2 กระบอก กระสุน 10 นัด

ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อรอการตรวจสอบ
- รถยนต์ 24 คัน มูลค่าประมาณ 13,670,000 บาท
- รถจักรยานยนต์3คัน มูลค่าประมาณ 140,000 บาท
- บ้าน/คอนโดมิเนียม9หลัง มูลค่าประมาณ 254,500,000 บาท
- โฉนดที่ดิน4แปลง มูลค่าประมาณ 4,740,000 บาท
- ทองรูปพรรณ มูลค่าประมาณ 1,510,000 บาท
- เงินสด จำนวน 1,817,110 บาท
- อื่นๆ มูลค่าประมาณ 9,138,188 บาท
รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 285,515,298 บาท

สำนักข่าวกะฉ่อนดอทคอม กอล์ฟ by กะฉ่อน รายงาน