ผบ.ตร. ร่วมแถลงผลจับกุมและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ลาวโหดฆ่าปาดคอสามยายหลานที่สมุทรปราการ(มีคลิป)

วันอังคารที่ 18 กันยายน 2561 เวลา 13.30 น. ที่ชั้น 5 ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ จากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ปาดคอยายและหลานสาวเสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 06.30 น. เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 30/6 หมู่ 6 ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากคดีดังกล่าวการกระทำของคนร้ายมีลักษณะโหดเหี้ยมโหดร้ายทารุณที่กระทำต่อคนแก่และเด็ก สร้างความสะเทือนใจแก่พี่น้องประชาชนและกระทบต่อสภาพจิตใจของญาติผู้สูญเสียเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชนต่อการทำหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1

ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ให้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.สมุทรปราการ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปกปภพ บดีพิทักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ ไกรวชิรสิทธิ์ ผกก.สภ.พระประแดง, พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ภ.จว.สมุทรปราการ ให้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนประจักษ์พยานและพยานแวดล้อม ทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายพูล่า (ท้าวพูล่า) ไม่มีนามสกุล สัญชาติลาว อายุ 22 ปี บ้านอยู่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว มีภรรยาเป็นคนไทย ชื่อ น.ส.ประวีณา โพดิลิก (ปลา) มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน อายุ 2 เดือน หลังก่อเหตุได้นั่งรถจักรยานยนต์จากภายในซอยเพชรหึงษ์ 23 ใกล้ที่เกิดเหตุไปลงที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สุขสวัสดิ์ จากนั้นได้โดยสารรถแท็กซี่ไปตามถนนสุขสวัสดิ์ขาออกทิศทางมุ่งหน้าไปทางเขตติดต่อพระสมุทรเจดีย์ ยังไม่ทราบเส้นทางหลบหนีแน่ชัด

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ประสานแจ้งข้อมูลของผู้ก่อเหตุไปตามหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานและออกติดตามไปที่สถานีขนส่งหมอชิตเพื่อออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 16 กันยายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้จับกุมตัว นายพูล่า (ท้าวพูล่า) ไม่มีนามสกุล สัญชาติลาว อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 738/2561 ลง 16 กันยายน 2561 ได้ที่บริเวณริมแม่น้ำโขง ชุมชนนาโป ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยของกลาง 1.พระเลี่ยมทอง จำนวน 1 องค์ (ที่ห้อยอยู่กับสร้อยคอนางมะลิ ผู้ตาย) 2.ต่างหูทองคำ(ของนางมะลิ ผู้ตาย) จำนวน 1 คู่ และ 3.เงินสด 5,629 บาท จากการสอบสวน นายพูล่า ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณตี 3 (ผู้ต้องหาอาจสับสนเรื่องเวลา) ได้ปีนรั้วบ้านของผู้ตายเข้าไปอยู่ในห้องครัว เห็นแมวมาป้วนเปี้ยนจึงได้ใช้มีดในครัวฆ่าแมวที่ห้องครัวตายหนึ่งตัว

ชมภาพบรรยากาศทั้งหมด คลิ๊ก
ชมคลิปทั้งหมด คลิ๊ก

จากนั้นได้ปีนจากห้องครัวเข้าไปภายในบ้านทางช่องลมเข้าไปแอบอยู่ในห้องน้ำ พอดีนางมะลิ ผู้ตายมาเข้าห้องน้ำเจอแล้วได้คิดต่อสู้จึงใช้อาวุธมีดที่หยิบมาจากห้องครัวปาดที่คอจนเสียชีวิต จังหวะนั้นเด็กที่นอนอยู่บนเตียงนอนตื่นมาเห็นจึงได้ใช้มีดเข้าไปปาดคอ ด.ญ.อิสห์ยา ที่นอนอยู่บนเตียงเสียชีวิต และจะปาดคอ ด.ญ.อาภารัตน์ แต่ ด.ญ.อาภารัตน์ ได้วิ่งหนี เป็นจังหวะเดียวกับมีเสียงคนร้องตะโกนขึ้นมาข้างบ้าน ผู้ต้องหากลัวว่าจะมีคนมาเห็น จึงได้รีบหยิบเอาทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ผู้ตายที่วางอยู่บนเตียงแล้วเดินออกจากบ้านของผู้ตายทันที โดยได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปลงที่หน้าห้างบิ๊กซี สุขสวัสดิ์ จากนั้นได้เรียกรถแท็กซี่จากบริเวณดังกล่าวไปลงที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยถึงเวลาประมาณ 08.00-09.00 น. แล้วได้เปลี่ยนเสื้อกางเกงและรองเท้าเป็นรองเท้าผ้าใบโดยซื้อที่ตลาดหมอชิต (ตามเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะถูกจับกุม) โดยทิ้งเสื้อผ้าและรองเท้าที่สวมใส่มาไว้ในห้องน้ำภายในสถานีขนส่ง จากนั้นโดยสารรถ บขส.จากหมอชิตไปลงที่จังหวัดยโสธร โดยจ่ายเงินให้คนขับรถไป จำนวน 1,200 บาท นั่งคู่ไปกับคนขับไปถึงที่ยโสธรในเวลาประมาณ 16.00-17.00 น.

ได้นำสร้อยคอที่ได้มาไปขายที่ร้านทองในจังหวัดยโสธร โดยให้คนขับรถพานั่งรถจักรยานยนต์ไปขาย ได้เงินมาประมาณ 7,500 บาท ให้คนขับรถไป 200 บาท และให้คนขับรถจักรยานยนต์ไป 100 บาท จากนั้นได้โดยสารรถประจำทางไปลงที่สถานีขนส่งมุกดาหารโดยถึงเวลาประมาณ 21.00 น. แล้วได้ว่าจ้างรถสามล้อรับจ้างให้ไปส่งที่ริมโขงชุมชนนาโป กำลังติดต่อให้เรือประมงหาปลาพาข้ามไปส่งยังฝั่งลาว แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเหตุคดีนี้ไว้ตั้งแต่เช้าแล้วจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางดังกล่าว ซึ่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ภายใน 16 ชั่วโมงครึ่ง นับแต่เวลาที่ได้รับแจ้งเหตุ ความสำเร็จในการจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในครั้งนี้ เกิดจากการบูรณาการการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายหน่วย อันได้แก่ ตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ กองบังคับการกองปราบปราม กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบังคับการตำรวจน้ำ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ทหารพราน มีการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน จนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว

จากคดีนี้ แม้จะสามารถติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว แต่ความสูญเสียและเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นบุคคลต่างด้าวอาศัยอยู่ในประเทศไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด (over stay) มีอาชีพรับจ้างรายวัน และมีประวัติการเสพยาเสพติด และลักทรัพย์มาก่อน คดีนี้ผู้ต้องหาปีนเข้าทางช่องลมที่เปิดโล่งไม่มีสิ่งป้องกัน จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ตรวจสอบประตูหน้าต่างช่องทางเข้าบ้านต่างๆ ให้เรียบร้อยไม่เปิดโอกาสให้คนร้าย สำหรับครอบครัวที่มีคนแก่ชราและเด็กเล็ก ไม่ควรปล่อยให้อยู่อาศัยเพียงลำพัง ต้องมีผู้ใหญ่หรือผู้ชายเป็นคนดูแล สำหรับชุมชน หมู่บ้าน ให้หมั่นคอยสังเกตสอดส่องพฤติกรรมของบุคคลในชุมชน หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ก้าวร้าว มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มั่วสุม เก็บตัว หลบๆ ซ่อนๆ ให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทราบ เพื่อจะได้นำตัวมาทำประวัติไว้เป็นกลุ่มเสี่ยง หรือต้องดูแลกวดขันเป็นพิเศษ และในการรับคนงานต่างด้าวเข้าทำงานต้องตรวจสอบประวัติให้ดีหรือตรวจดูว่าประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ประกอบกับคดีนี้ผู้ต้องหามีประวัติเคยก่อเหตุลักทรัพย์แต่ผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์เอาเรื่องแต่อย่างใด ซึ่งมองข้ามไปคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ซึ่งทำให้ผู้ก่อเหตุได้ใจ ไม่เข็ดหลาบ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง กระทั่งได้มาก่อเหตุอีกในครั้งนี้

หนังสือพิมพ์กะฉ่อนดอทคอม กอลฟ์ by กระฉ่อน รายงาน