ข่าวลูกถูก3โจ๋รุมโทรม!ตร.เกียร์ว่าง โร่ร้องกองปราบสางคดี - kachon.com

ลูกถูก3โจ๋รุมโทรม!ตร.เกียร์ว่าง โร่ร้องกองปราบสางคดี
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อม นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี อาชีพชาวประมง ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และครอบครัว เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.แสงชัย เหล่ากิจรุ่งเรือง รอง ผกก.สอบสวน กก.5 บก.ป. เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยติดตามความคืบหน้าทางคดี กรณี น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี บุตรสาว ถูกกลุ่มเยาวชนจำนวน 3 คน รุมโทรม ภายในห้องน้ำสาธารณะริมชายหาดชะอำ ซึ่งทางครอบครัว ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณ ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยนำหลักฐานภาพวงจรปิด ภาพถ่ายที่เกิดเหตุ และเสื้อผ้าที่ผู้เสียหายสวมใส่ในวันเกิดเหตุ มามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา

นายรณณรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา น.ส.บี ผู้เสียหาย ได้ขออนุญาตผู้ปกครองไปเดินเล่นกับแฟนหนุ่มและกลุ่มเพื่อนสนิททั้งชายหญิง อายุประมาณ 16-17 ปี จำนวนหลายคน ที่บริเวณริมชายหาดปากน้ำปราณ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ กระทั่งตกดึกได้มีเพื่อนชายในกลุ่มที่มาด้วยกันนั้นจำนวน 3 คนใช้กำลังฉุดกระชาก น.ส.บี เข้าไปก่อเหตุบังคับรุมโทรมข่มขืนภายในห้องน้ำสาธารณะบริเวณดังกล่าว โดยที่แฟนหนุ่มของผู้เสียหายและเพื่อนคนอื่นๆ ได้แต่ยืนมองไม่สามารถช่วยเหลือได้แต่อย่างใด เนื่องจากถูกข่มขู่ว่าหากให้การช่วยเหลือจะถูกรุมทำร้าย ก่อนจะมีการแจ้งความเอาผิดกับวัยรุ่นทั้ง 3 คนนี้ที่ สภ.ปากน้ำปราณ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร รวมถึงยังไม่มีการเรียกตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำ หรือแม้แต่นำผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองตามกฎหมายแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่รู้ตัวและชื่อผู้กระทำผิดครบถ้วนแล้ว กระทั่งเมื่อทราบเรื่องว่า ตนจะพาครอบครัวผู้เสียหาย มาร้องเรียนที่กองปราบ ก็ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อมายังผู้ปกครองของผู้เสียหายเพื่อขอให้เข้ามาสอบปากคำ ซึ่งตนเองมองว่าหากตนไม่เข้ามาช่วยเหลือหรือพามาร้องเรียนกองปราบ คดีก็ยังคงไม่คืบหน้า ในวันนี้ตนจึงอยากให้มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนจากตำรวจท้องที่มาเป็นทางตำรวจกองปราบเป็นผู้ทำคดีแทน เนื่องจากมองว่าผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม



ด้าน นางเอ มารดาของผู้เสียหาย กล่าวว่า ภายหลังเกิดเรื่องกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกหลานนักการเมืองท้องถิ่น พยายามที่จะเข้ามาขอเจรจาไกล่เกลี่ยพร้อมเสนอเงินจำนวน 50,000 บาท เพื่อขอให้ยอมความ โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณ เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย แต่ตนได้ปฏิเสธไปเพราะไม่ต้องการเงิน จึงทำให้พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวไม่พอใจ ใช้ถ้อยคำไม่ดีด่าทอกล่าวหาว่าทำให้เสียหน้า และยังนำชื่อของลูกสาวไปเผยแพร่บนสื่อออนไลน์สร้างความเสียหายต่อตัวเด็กและครอบครัว

"ผู้กระทำผิดทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของลูกสาวที่เรียนมาด้วยกัน โดยลูกสาวเล่าว่า ในวันเกิดเหตุพวกเขาพยายามที่จะมอมเหล้า แต่ไม่ยอม ยืนยันว่าลูกตนเองไม่เป็นคนดื่มสุรา และในวันเกิดเหตุก็มีเพื่อนผู้หญิงของลูกไปอีกด้วย อีกทั้งหลังจากเกิดเหตุตนได้ทราบว่าก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณ ได้เคยเรียกตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนมาพูดคุย แต่กลับไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา หรือเป็นเพราะผู้ก่อเหตุเป็นลูกหลานนักการเมืองท้องถิ่นถึงได้นิ่งเฉย" มารดา ผู้เสียหายกล่าว

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้ พร้อมกับทำการสอบปากคำและพิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ที่ผู้เสียหายนำมามอบให้ เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนส่งต่อเรื่องให้กับผู้บังคับบัญชาดำเนินการสั่งการต่อไป.