ข่าว'เสมียนพรรคดัง'กลัวตายร้องป. ถูกขาใหญ่พรรคตื๊บ-ขู่ฆ่า - kachon.com

'เสมียนพรรคดัง'กลัวตายร้องป. ถูกขาใหญ่พรรคตื๊บ-ขู่ฆ่า
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 9  ม.ค. นายวีรพัฒน์ พร้อมพลากร อายุ 37 ปี นายทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองดัง เปิดเผยว่าได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประวีณ ปาณะศรี รอง ผกก.สอบสวน กก.5 บก.ป. เมื่อวันที่ 8 ม.ค.เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ นายเอก(นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ผู้กว้างขวางในพรรคเดียวกันพร้อมพวกอีก 2คนในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำให้เสียทรัพย์ และข่มขืนใจ” หลังถูกทั้ง 3 คน ใช้กำลังบังคับพาไปทำร้ายร่างกายภายในบ่อตกกุ้งแห่งนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร  โดยนายวีรพัฒน์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนประกอบกิจการผลิตภัณฑ์นมอัดเม็ด ก่อนที่ต่อมาจะได้รับการชักชวนจากนายเอก ให้มาเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่นายทะเบียนต่อมาตนได้มีปัญหาขัดแย้ง กับนายเอก เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นผู้ลบข้อมูลชื่อสมาชิกพรรคบางคนที่จะลงสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในพื้นที่ จ.ราชบุรี และสมุทรสาคร ออกจากระบบและการเป็นสมาชิกของพรรคทำให้มีสมาชิกพรรคหลายรายย้ายไปเป็นสมาชิกพรรคอื่น จนทำให้พรรคเสียประโยชน์ จนเกิดความบาดหมางใจกันขึ้น ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้กระทำการดังกล่าว

นายวีรพัฒน์ กล่าวต่อว่า จนเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนได้รับโทรศัพท์จากนายเอก ให้มาพบเจอกันที่บ่อตกกุ้ง ในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตนจึงเดินทางไปพบ โดยในบ่อตกกุ้งมีนายเอกพร้อมพวก รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คนหนึ่ง พร้อมตำรวจสังกัด สภ.กระทุ่มแบน จากนั้นนายเอกได้ลงมือทำร้ายร่างกายสะบักสะบอม ก่อนชักปืนออกมาจ่อหัว ก่อนจะหันมาบังคับให้ตนเขียนหนังสือสัญญาลาออกจากตำแหน่งนายทะเบียนของพรรค รวมถึงบังคับให้ตนพูดรับสารภาพว่าเป็นผู้คีย์ข้อมูลผิดพลาดผ่านทางคลิปวิดีโอ  รวมถึงพูดข่มขู่ตนว่าหากตนไม่ยอมทำตาม ลูกเมียจะได้รับอันตราย ด้วยความกลัว ตนจึงเอ่ยปากขอโทษพร้อมกับจะยอมทำตาม นายเอกจึงปล่อยให้ตนกลับบ้าน       

นายวีรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ต่อมาภายหลังก็ได้มีลูกน้องของนายเอก ที่สนิทและคบหากับตนมานาน เข้ามาหาตนที่บ้านพักพร้อมกับบอกว่าให้ตนพาลูกเมียหนีไปซ่อนตัวตามต่างจังหวัด เพราะเกรงว่านายเอก ที่มีนิสัยโหดร้าย อาจจะย้อนบุกกลับมาทำร้ายครอบครัวของตน โดยการข่มขืนภรรยาของตนพร้อมกับอัดคลิปวิดีโอเก็บไว้แบล็คเมล์ ให้ตนต้องยอมทำตามข้อตกลง ด้วยเหตุนี้ตนจึงได้พาลูกเมียของตนหนีไปอยู่ตามต่างจังหวัด กระทั่งเก็บความกดดันนี้ไม่ไหวจึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจกองปราบปราม เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ได้รับเรื่องไว้ ก่อนจะประสานส่งต่อให้กับทางผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป.