ร้องสอบตำรวจ'สภ.สระยายโสม' ทำคดี'ต้าแง'ไม่เคลียร์
อาชญากรรม
Webmaster
2019-01-09 21:40:00
25
Webmaster
2019-01-09 21:40:00
25
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ นำนายสมจิต ฉิมมา อายุ 63 ปี และนางพยุง สร้อยทอง อายุ 70 ปี พ่อแม่ของนายทองขวัญ ฉิมมา หรือ นายฝน ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ เด็กชายซูลุยผิว ชาวเมียนมาร์ วัย 2 ขวบ ที่หายตัวไปก่อนถูกพบเป็นศพในป่า จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา เดินทางมายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เรียกร้องให้มีคำสั่งเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน จาก สภ.สระยายโสม ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามรับผิดชอบแทน และรื้อคดีสืบสวนสอบสวนใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายตัวจริงที่ทำให้เด็กชาย ซูลุยผิว หรือ น้องต้าแงเสียชีวิตในไร่อ้อย โดยมี พ.ต.อ.ธวัชศักดิ์ โปตระนันทน์ ผบก.อก.สทศ. ในฐานะนายตำรวจหัวหน้าเวรอำนวยการ รับเรื่องเพื่อส่งต่อให้พิจารณา
โดย นายอนันต์ชัย กล่าววว่า ตนเองขอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวน สภ.สระยายโสม ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนแถลงข่าวและออกหมายจับนายฝน ข้อหาพรากผู้เยาว์ เนื่องจากคดีมีการสอบสวนโดยชี้นำพยานให้เป็นไปตามความต้องการของพนักงานสอบสวน และละเว้นสอบสวนพยานบางปาก นอกจากนี้ยังขอให้ ผบ.ตร. สั่งสอบสวนว่า พนักงานสอบสวนมีการดำเนินคดีกับเจ้าของไร่อ้อย ของบิดาและมารดาน้องต้าแงหรือยัง หากยัง ก็ขอให้ดำเนินคดี และตั้งกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวนที่ละเว้นกรณีดังกล่าว ทั้งทางวินัยและอาญา ทั้งนี้ตนเองยืนยันนายฝนไม่ใช่ผู้พาน้องต้าแงไปเล่นน้ำจนเสียชีวิต การตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์นั้นต้องพิจารณาจากเจตนา แต่กรณีนี้ไม่มีพฤติการณ์บ่งบอก ว่าน้องต้าแงออกไปเล่นน้ำกับนายฝน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายอนันตชัย พร้อมพ่อแม่ของนายฝน ก็ได้เข้าไปร้องกองปราบปรามมาแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามีการจัดฉาก เพราะนายฝนเป็นผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ทั้งยังเป็นออทิสติกด้วย อายุสมองเท่ากับเด็ก 5 ขวบเท่านั้น หากไปยังป่าอ้อยได้ถูกก็ต้องหาทางกลับบ้านถูกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังพบพิรุธทางคดีหลายส่วน เช่นการทำลายสถานที่โดยการลอกคูน้ำขึ้นมาทั้งหมดหลังจากพบศพแล้ว การพาตัวนายฝนไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพโดยใช้คำถามชี้นำ จนต้องตอบเพียงคำว่า "อื้อ" , การไม่สอบพยานอีก 8 ปาก ที่ยืนยันว่า นายฝน ไม่ได้อยู่กับเด็ก 2 ขวบวันเกิดเหตุ จนกระทั่งชาวบ้านออกมาประท้วงกดดัน ส่วนตัวจึงเชื่อว่าเป็นการจัดฉาก น่าจะมีการเสียชีวิตจากจุดอื่น ก่อนนำศพมาทิ้งในจุดที่พบ อีกทั้งผลนิติวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่า เด็กชายวัย 2 ขวบไม่ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่ในจุดเกิดเหตุ กลับมีคูน้ำอยู่ สังเกตได้ว่าขัดแย้งกับข้อเท็จจริงอีกด้วย.
ติดตามข่าว "เด็ก2ขวบหายในไร่อ้อย" ได้ทั้งหมดที่นี่..คลิก
โดย นายอนันต์ชัย กล่าววว่า ตนเองขอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวน สภ.สระยายโสม ฐานบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนแถลงข่าวและออกหมายจับนายฝน ข้อหาพรากผู้เยาว์ เนื่องจากคดีมีการสอบสวนโดยชี้นำพยานให้เป็นไปตามความต้องการของพนักงานสอบสวน และละเว้นสอบสวนพยานบางปาก นอกจากนี้ยังขอให้ ผบ.ตร. สั่งสอบสวนว่า พนักงานสอบสวนมีการดำเนินคดีกับเจ้าของไร่อ้อย ของบิดาและมารดาน้องต้าแงหรือยัง หากยัง ก็ขอให้ดำเนินคดี และตั้งกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวนที่ละเว้นกรณีดังกล่าว ทั้งทางวินัยและอาญา ทั้งนี้ตนเองยืนยันนายฝนไม่ใช่ผู้พาน้องต้าแงไปเล่นน้ำจนเสียชีวิต การตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์นั้นต้องพิจารณาจากเจตนา แต่กรณีนี้ไม่มีพฤติการณ์บ่งบอก ว่าน้องต้าแงออกไปเล่นน้ำกับนายฝน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายอนันตชัย พร้อมพ่อแม่ของนายฝน ก็ได้เข้าไปร้องกองปราบปรามมาแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามีการจัดฉาก เพราะนายฝนเป็นผู้พิการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ ทั้งยังเป็นออทิสติกด้วย อายุสมองเท่ากับเด็ก 5 ขวบเท่านั้น หากไปยังป่าอ้อยได้ถูกก็ต้องหาทางกลับบ้านถูกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังพบพิรุธทางคดีหลายส่วน เช่นการทำลายสถานที่โดยการลอกคูน้ำขึ้นมาทั้งหมดหลังจากพบศพแล้ว การพาตัวนายฝนไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพโดยใช้คำถามชี้นำ จนต้องตอบเพียงคำว่า "อื้อ" , การไม่สอบพยานอีก 8 ปาก ที่ยืนยันว่า นายฝน ไม่ได้อยู่กับเด็ก 2 ขวบวันเกิดเหตุ จนกระทั่งชาวบ้านออกมาประท้วงกดดัน ส่วนตัวจึงเชื่อว่าเป็นการจัดฉาก น่าจะมีการเสียชีวิตจากจุดอื่น ก่อนนำศพมาทิ้งในจุดที่พบ อีกทั้งผลนิติวิทยาศาสตร์ที่ระบุว่า เด็กชายวัย 2 ขวบไม่ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่ในจุดเกิดเหตุ กลับมีคูน้ำอยู่ สังเกตได้ว่าขัดแย้งกับข้อเท็จจริงอีกด้วย.
ติดตามข่าว "เด็ก2ขวบหายในไร่อ้อย" ได้ทั้งหมดที่นี่..คลิก
