ข่าวเด้งผกก.-รองผกก.บางปะอิน เผยข้อมูลทะเบียนราษฎร์ - kachon.com

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 3/2560 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ โดยสั่งให้ พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และพ.ต.ท.เรืองยศ เกษรบัว รองผกก.สส. สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปปฏิบัติการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม และมอบหมายให้ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติการภาค 1 เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจดังกล่าว 

และมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทนดังนี้ 1.พ.ต.อ.วีระชัย เหลืองวิลัย ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผกก.สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 2. พ.ต.ท.ศรุต จันทร์เกษ รอง ผกก.สส. ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทนในตำแหน่งรองผกก.สส. สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.2562 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง 



ด้วยตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีหนังสือที่ 0016.611/154 ลงวันที่ 10 มกราคม 2562 ขออนุมัติให้ พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และพ.ต.ท.เรืองยศ เกษรบัว รองผกก.สส. สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 1 สืบเนื่องจากพ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ กับผู้ถูกร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดีในเรื่อง การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2561 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายสุบิน ยาวิราช บิดาและครอบครัวของน้องหญิงได้เข้าร้องเรียนที่ตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับกรณีที่พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ เข้าไปพัวพันกับคดีที่เกิดขึ้น เป็นเหตุให้ พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ สั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่ตำรวจภูธรภาค 1 ในห้วงวันที่ 3 สิงหาคมถึง 28 กันยายน 2561 และอีกกรณีหนึ่งเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2561 นางรักชนก เจริญมากสุวรรณ ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับพ.ต.ท.เรืองยศ เกศเกษรบัว และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันเปิดเผยข้อความหรือตัวเลขนั้นแก่บุคคลใดๆ ซึ่งไม่มีหน้าที่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร์ พศ. 2535 จากทั้ง 2 กรณีดังกล่าวข้างต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องกับคู่กรณีทั้งฝ่ายนายอัจฉริยะเรืองรัตนพงศ์และนางรักชนก เจริญมากสุวรรณ หากยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่สถานีตำรวจภูธรบางปะอินจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอาจเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้นได้