ซิวหนุ่มชิงรถตู้ขับกลับบ้าน โบ้ยโชเฟอร์พักนานไม่ทันใจ
อาชญากรรม
Webmaster
2019-01-15 19:40:00
22
Webmaster
2019-01-15 19:40:00
22
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ร.ต.อ.เฉลิมพล รุ่งรัตน์ รองสวป.สภ.หาดใหญ่ รับแจังมีเหตุคนร้ายชิงรถตู้โดยสาร ขับหนีออกมาจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร อำเภอหาดใหญ่แห่งที่ 2 หรือ คิวรถตู้ตลาดเกษตร เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยมีผู้โดยสารนั่งอยู่ในรถด้วย 10 กว่าคน แต่ทางโชเฟอร์สามารถติดตามรถดังกล่าวได้ทัน และควบคุมตัวคนร้ายส่งตำรวจไว้ได้บริเวณสี่แยกไฟแดงท่าเคียน เมื่อไปถึงพบรถตู้โดยสารสายหาดใหญ่-ทุ่งหว้า หมายเลขทะเบียน 10-1068 สตูล จอดอยู่ริมถนนใกล้แยกดังกล่าว ขณะที่นายอุดม ปาทาน อายุ 41 ปี คนขับพร้อมวินจยย.รับจ้างกำลังคุมตัว นายเกียรติศักดิ์ รักรณรงค์ อายุ 21 ปี ชาวจ.สตูล ส่งให้ตำรวจ
จากการสอบสวน นายอุดม ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับผู้โดยสารเดินทางมาจากคิวทุ่งหว้า จ.สตูล ประมาณ 10 คน รวมทั้งนายเกียรติศักดิ์ ผู้ก่อเหตุที่นั่งมาข้างเบาะคนขับ ระหว่างนายเกียรติศักดิ์ทางไม่มีท่าทีผิดปกติแต่อย่างใด จนกระทั่งได้แวะไปส่งของฝากที่คิวรถและบอกผู้โดยสารว่าขอเข้าห้องน้ำสักครู่ โดยสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ แต่พอออกมาจากห้องน้ำกลับพบว่า รถตู้ที่ตนขับมากำลังวิ่งออกไปจากสถานีขนส่ง จึงรีบวิ่งตามแต่ก็ไม่ทัน โชคยังดีที่บริเวณดังกล่าวมีวินจักรยานยนต์รับจ้าง จึงขออาศัยให้ช่วยขับติดตามรถตู้ไปด้วยกัน จนกระทั่งไล่ทันช่วงแยกไฟแดงท่าเคียนห่างจากสถานีขนส่งประมาณ 3 กม. ก็สามารถเปิดประตูรถขึ้นไปล็อกตัว นายเกียรติศักดิ์ ที่ก่อเหตุชิงรถเอาไว้ได้ ขณะที่ผู้โดยสาร 10 คน ถูกไล่ลงจากรถไปก่อนหน้านี้และตลอดเวลาที่ติดตามไม่พบว่ามีอุบัติเหตุซ้ำซ้อนกับเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
ด้านนายเกียรติศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุชิงรถตู้จริง โดยอ้างว่า ก่อนขึ้นรถตู้เพิ่งเสพยาบ้าไป 3-4 เม็ด ระหว่างทางมีอาการเมายาบ้า ควบคุมตัวเองไม่อยู่ จังหวะที่รถแวะจอดสถานีขนส่ง เห็นคนขับไปทำธุระนานแล้วไม่ยอมกลับมาขับรถต่อ อีกทั้งยังขับช้าไม่ทันใจ จึงเข้าไปขับแทนเพราะอยากกลับถึงบ้านโดยเร็ว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการเวลากลางวัน เพื่อสะดวกในการหลบหนี จากนั้นได้คุมตัวไปตรวจปัสสาวะว่ามีสารเสพติดในร่างกายหรือไม่ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
จากการสอบสวน นายอุดม ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับผู้โดยสารเดินทางมาจากคิวทุ่งหว้า จ.สตูล ประมาณ 10 คน รวมทั้งนายเกียรติศักดิ์ ผู้ก่อเหตุที่นั่งมาข้างเบาะคนขับ ระหว่างนายเกียรติศักดิ์ทางไม่มีท่าทีผิดปกติแต่อย่างใด จนกระทั่งได้แวะไปส่งของฝากที่คิวรถและบอกผู้โดยสารว่าขอเข้าห้องน้ำสักครู่ โดยสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ แต่พอออกมาจากห้องน้ำกลับพบว่า รถตู้ที่ตนขับมากำลังวิ่งออกไปจากสถานีขนส่ง จึงรีบวิ่งตามแต่ก็ไม่ทัน โชคยังดีที่บริเวณดังกล่าวมีวินจักรยานยนต์รับจ้าง จึงขออาศัยให้ช่วยขับติดตามรถตู้ไปด้วยกัน จนกระทั่งไล่ทันช่วงแยกไฟแดงท่าเคียนห่างจากสถานีขนส่งประมาณ 3 กม. ก็สามารถเปิดประตูรถขึ้นไปล็อกตัว นายเกียรติศักดิ์ ที่ก่อเหตุชิงรถเอาไว้ได้ ขณะที่ผู้โดยสาร 10 คน ถูกไล่ลงจากรถไปก่อนหน้านี้และตลอดเวลาที่ติดตามไม่พบว่ามีอุบัติเหตุซ้ำซ้อนกับเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
ด้านนายเกียรติศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุชิงรถตู้จริง โดยอ้างว่า ก่อนขึ้นรถตู้เพิ่งเสพยาบ้าไป 3-4 เม็ด ระหว่างทางมีอาการเมายาบ้า ควบคุมตัวเองไม่อยู่ จังหวะที่รถแวะจอดสถานีขนส่ง เห็นคนขับไปทำธุระนานแล้วไม่ยอมกลับมาขับรถต่อ อีกทั้งยังขับช้าไม่ทันใจ จึงเข้าไปขับแทนเพราะอยากกลับถึงบ้านโดยเร็ว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการเวลากลางวัน เพื่อสะดวกในการหลบหนี จากนั้นได้คุมตัวไปตรวจปัสสาวะว่ามีสารเสพติดในร่างกายหรือไม่ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
