ข่าว'พอลลีน'ผวาชายปริศนาขึ้นรถค้นเอกสาร ซัดปมการเมือง - kachon.com

'พอลลีน'ผวาชายปริศนาขึ้นรถค้นเอกสาร ซัดปมการเมือง
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. เพจเฟซบุ๊ก "พอลลีน งามพริ้ง" หรือ "พินิจ งามพริ้ง" ผู้สมัครพรรคมหาชน อดีตแกนนำกลุ่มเชียร์ไทย เพาเวอร์ และอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในปี 2556 ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า "เมื่อเวลาประมาณ​ 23:00 เศษๆ พอลลีน เดินออกมาจากงานวันเกิดเพื่อน บริเวณซอยรามคำแหง ซอย​ 100  ขณะที่กำลังเดินกลับไปที่รถ เพื่อกลับบ้าน พบว่ารถของตัวเอง มีคนนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ กำลังค้นเอกสารภายในรถ​ ในมือถือสมุดคู่มือรถ พอลลีนจึงถามว่ามาทำอะไรที่รถฉัน จึงดึงตัวออกมา เพื่อที่จะพาไปบริเวณที่ สว่างและมีคน ในร้านนั่งอยู่ แต่ระหว่าง กำลังเดินไปนั้น ชายคนดังกล่าว สังเกตได้ว่า ผมสั้นเกรียน ใส่เสื้อยืดสีเขียว แบบทหารเกณฑ์ เดินไปได้สักพักชายคนนั้นก็สะบัดมือพอลลีนแล้ววิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ ที่จอดรออยู่ แล้วขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว พอลลีนลองทบทวนดู ถ้าเป็นโจร ประสงค์ต่อทรัพย์ น่าจะหยิบเครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook ซึ่งทิ้งไว้ในรถ หรือ น่าจะฉกฉวยกระเป๋าอะไรสักอย่างแล้วรีบออกไปจากตรงนั้น ทำไมจึงนั่งอยู่ในรถ เพื่อค้นเอกสาร เรื่องนี้นึกอะไรไม่ออก นอกจากเหตุมาจาก ที่กำลังทำงานเรื่องการเมือง เวลานี้จะไปไหนมาไหนคงต้องระวังตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตามในวันนี้ เวลา ประมาณ บ่ายสองถึงบ่ายสาม พอลลีน จะไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันที่​ สน.บางชัน ท้องที่เกิดเหตุ"

ด้าน" พอลลีน งามพริ้ง" กล่าวกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าชัดว่าสาเหตุที่มีคนเข้ามาอยู่ในรถมีวัตถุประสงค์อะไร แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องการเมือง เพราะไม่มีเรื่องอื่น และถ้าเป็นขโมยก็ต้องเอาของไปเลย แต่นี่นั่งอยู่ในรถ ดูสมุดคู่มือ ซึ่งก็แปลก ยืนยันว่าตนเองไม่มีศัตรูที่ไหน แต่โดยนิสัยส่วนตัวจะเป็นคนที่วิจารณ์อะไรตรงๆ บางทีก็มีแซวรัฐบาลบ้าง แต่ไม่ได้มีเอ็กชั่นประท้วงอะไร ซึ่งถ้าให้คิดเรื่องอื่นก็ยังคิดไม่ออก

"เชื่อว่าเป็นเรื่องการเมืองแน่นอนค่ะ  วันนี้จะไปแจ้งความที่สน.บางชัน ส่วนตัวก็อยากจะฝากไปถึงผู้มีอำนาจ ว่า เราเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ จริงๆไม่ได้กลัว แต่มันก็เป็นการละเมิดเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว คือนั่งอยู่ในรถยนต์ เราพรรคมหาชนได้ไปเซ็นสัตยาบันกันแล้วในเรื่องของการหาเสียงไม่ใช้ความรุนแรง อยากฝากถึงคนที่มีอำนาจในชาติบ้านเมือง ก็รู้ว่าทุกคนอยากมีอำนาจ แต่อยากให้มีความคิดในแง่ดีกับคนอื่นบ้าง ไม่ใช่รักชาติคนเดียว แบ่งให้คนอื่นรักบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป" พอลลีน กล่าว