ลักซ้อนลวง!ขี่จยย.ขโมยทำทีซื้อเก๋ง ก่อนเชิดหน้าตาเฉย
อาชญากรรม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา นายนรินทร์ ได้ก่อเหตุลักขโมยรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทาดำ ทะเบียน กม 3050 นครปฐม ของผู้เสียหายรายหนึ่ง หลังทำทีใช้เฟซบุ๊กชื่อ "พ่อครัวบ้านนอก" เข้าไปติดต่อซื้อรถกับผู้เสียหายที่มีการประกาศขายไว้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะนัดดูรถกันที่บริเวณหน้าสถานีอนามัยม่วงตารส หมู่ 8 ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของผู้เสียหาย เมื่อถึงเวลานัดหมายนายนรินทร์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์เอ็กซ์ สีเขียวดำ ติดป้ายทะเบียน กษบ 637 มหาสารคาม เข้ามาจอดที่เกิดเหตุ ก่อนออกอุบายขอทดสอบขับรถของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อยอมให้ทดลองขับ ปรากฎว่านายนรินทร์ ได้ใช้โอกาสนี้จับรถยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไปต่อหน้าต่อตา โดยยอมทิ้งรถจักรยานยนต์ของตนเองไว้ในที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายจึงได้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปทำการตรวจสอบ ทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่นายนรินทร์ทิ้งไว้นั้นก็เป็นรถที่ถูกขโมยมาด้วยเช่นกัน จึงได้เข้าแจ้งความกับทาง สภ.เมืองนครปฐม กระทั่งมีการออกหมายจับดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า ภายหลังก่อเหตุได้หลบหนีมาขายพระที่ลานจอดรถวัดยางหัก หมู่ 14 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึงพบนายนรินทร์ นั่งขายพระอยู่ที่บริเวณดังกล่าวและพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทาดำ ทะเบียน กม 3050 นครปฐมที่ลักไป จอดอยู่ใกล้แผงขายพระ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการสอบสวนนายนรินทร์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "พ่อครัวบ้านนอก" ติดต่อซื้อรถยนต์จากผู้เสียหายและใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวหลอกขายพระโดยการคัดลอกภาพพระแท้จากเว็บไซต์พระมาใส่ในเฟซบุ๊กตนเองแล้วหลอกขาย หากมีคนสนใจโอนเงินมา ตนเองก็จะปิดเฟซบุ๊กหนีทันที ที่ผ่านมาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมานับไม่ถ้วน นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติพบว่ายังมีหมายจับของศาลจังหวัดมีนบุรีที่ 49/2557 ลงวันที่ 10 ม.ค. 2558 ข้อหาลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างอีกจำนวน 1 หมายจับ และเมื่อปี 2554 นายนรินทร์ เคยถูกกองปราบจับกุมคดีลักพระเครื่องของพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายรายกว่า 100 รายการ มูลค่า 20 ล้าน เคยถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์ 2 คดี ยักยอกทรัพย์อีก 1 คดี หลังออกจากคุกก็กลับมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แข้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.