ข่าวรวบหนุ่มเจ้าของเว็บฯแพร่ข่าวเท็จ คนเสียชีวิตจาก'ฝุ่นพิษ' - kachon.com

รวบหนุ่มเจ้าของเว็บฯแพร่ข่าวเท็จ คนเสียชีวิตจาก'ฝุ่นพิษ'
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการจับกุมนายวัฒนาพงษ์ พิธาวัฒนฐิติกุล อายุ 36 ปี ที่อยู่ 9/144 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงและเขตคันนายาว กรุงเทพฯ เจ้าของเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข่าวเท็จว่ามีผู้เสียชีวิตจากค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM2.5 เกินมาตรฐาน ในข้อหา "นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดย ประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน" มีอัตราโทษจาคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก ศปอส.ตร. ได้ตรวจสอบพบข้อมูลข่าวที่เป็นเท็จปรากฏในเว็บไซต์ "www.bangpunsara.com" มีข้อความพาดหัวข่าวว่า "สังเวย 1ศพ PM2.5" เผยแพร่ โดยอ้างว่าค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 เกินมาตรฐานในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและปรากฏภาพผิวหนังของหญิงลักษณะพุพองที่แผ่นหลัง ใบหน้า ลำคอ ไหล่ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุข และ บก.ปอท. ว่าข่าว ดังกล่าวไม่เป็นความจริง การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไปอาจเกิดความสับสน หลงเชื่อ และแชร์ข้อมูลจนอาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชนได้ เข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14(2) จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.3บก.ปอท. เพื่อขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ กระทั่งจับตัวได้ดังกล่าว

นอกจากเว็บไซต์ "www.bangpunsara.com" ซึ่งได้มีการเผยแพร่ข่าวเท็จดังกล่าวแล้ว ทาง ศปอส.ตร. ยังได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์อื่นที่มีการกระทำผิดเช่นเดียวกัน ได้แก่ www.gmmwork.com และ www.jookthai.com แต่ผู้กระทำผิดมีการปกปิดข้อมูลชื่อผู้ลงทะเบียนและมีที่ตั้งของเว็บไซต์ (SERVER) อยู่ในต่างประเทศ จึงประสานความร่วมมือกับสานักงาน กสทช. ในการระงับการทำให้ แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อปิดกั้นไม่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ดังกล่าวได้อีกต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้นำข้อมูลดังกล่าวมาเผยแพร่จริง โดยมุ่งหวังรายได้จากยอดโฆษณาทางเว็บไซต์เมื่อมีคนคลิกเข้ามาอ่านข่าวดังกล่าว ซึ่งอยู่ในห้วงเวลาที่มีประชาชนสนใจปัญหา จึงทำให้มีผู้ติดตามข่าวดังกล่าวจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนและเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ ฝากเตือนไปยังประชาชนให้ติดตามข้อมูลข่าวสารดังกล่าวจากหน่วยงานภาครัฐและเว็บไซต์สำนักข่าวที่เชื่อถือได้เท่านั้น และอย่าส่งต่อหรือแชร์ข้อมูลหรือข่าวที่ไม่เป็นความจริง เพราะหากตรวจสอบพบจะถูกดำเนินคดีได้.