หนุ่มปณ.ร้องสืบเมืองกาญจน์ยิงเจ็บ แถมยัดข้อหาเพียบ
อาชญากรรม
Webmaster
2019-02-05 16:05:00
25
Webmaster
2019-02-05 16:05:00
25
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายจักรกฤษณ์ เส็งจีน อายุ 27 ปี พนักงานไปรษณีย์ในจังหวัดกาญจนบุรี อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 3 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นางรัดใจ เส็งจีน อายุ 58 ปี มารดา และทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ยศดาบตำรวจ นายหนึ่ง ยิงได้รับบาดเจ็บ และถูกยัดข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองและที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และอีกหลายข้อหาโดยไม่เป็นธรรม
นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ บนถนนลิ้นช้างเขาปูน ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อไปส่งเพื่อนในตัวเมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนเขาปูน ระหว่างนั้นพบรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งขับส่ายไปมาเหมือนมีอาการเมาสุรา ตนจึงเตรียมแซงขวา แต่ในถนนบริเวณนั้นเป็นทางโค้ง คนขับรถบิ๊กไบค์คันดังกล่าวซึ่งสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้หันมามองตน ทำให้รถเสียหลักล้มลง ตนจึงชะลอรถเพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันได้จอดรถลงไป ชายคนดังกล่าวกลับชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ตนกับเพื่อน 2 นัด กระสุนถูกตัวรถก่อนจะกระเด็นเข้ามาถูกบริเวณขาด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ ด้ายความตกใจเพื่อนซึ่งนั่งซ้อนท้ายได้กระโดดวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือ และเข้าไปหลบภายในบ้านของชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนตนด้วยควากลัวก็ได้เร่งเครื่องขี่รถหนีไป ก่อนโทรแจ้งมารดาว่าถูกยิง จากนั้น มารดาพาเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อว่า ระหว่างที่กำลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนนั้น ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3-4 คน อ้างเป็นตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดฯ และเป็นคนยิงตน พร้อมขออายัดตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการสืบสวนจังหวัด เนื่องจากตนได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่เพื่อชิงทรัพย์รถบิ๊กไบค์ ซึ่งตนปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิง แถมยังถูกยิงอีกต่างหาก แต่เขายืนยันจะพาตนไปสอบสวนต่อ แต่อาของตนที่เป็นทหารใน จ.กาญจนบุรี ได้เข้ามาขัดขวางไว้เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย ขณะที่เพื่อนที่ไปด้วยกันก็ถูกชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจสืบสวนจังหวัดจับกุมตัวหลังเกิดเหตุ และถูกซ้อมขณะให้ปากคำใน สภ.เมืองกาญจนบุรี ด้วย นอกจากนี้กลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ามาค้นบ้านพักของตนด้วย โดยไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ม.ค. มีหมายจับของศาลมาหา โดยตนถูกแจ้งดำเนินคดีหลายข้อหา ทั้งข้อหาพยายามฆ่า, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพกพาไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
"หลังเกิดเหตุผมเครียดมากที่ถูกแจ้งข้อหาหนัก ทั้งที่ไม่ได้ก่อเหตุตามที่ถูกใส่ร้าย ทั้งนี้ตอนแรกเขาหาว่าชิงทรัพย์รถบิ๊กไบค์ แต่ในสำนวนพบว่าไม่มีข้อหาพยายามชิงทรัพย์แต่อย่างใด และในบันทึกจับกุมก็ไม่ได้มีของกลางอาวุธปืนอีกด้วย ต่อมาผมกับญาติๆ ได้สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า ดาบตำรวจคนดังกล่าว มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายเรื่อง โดยชอบมาตั้งวงกินเหล้ากันในร้านแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุและชอบยิงปืนเล่นภายในร้านอีกด้วย ส่วนการที่เขาแจ้งข้อหาผมก็เพราะกลัวในคดีที่ผมแจ้งความเขาว่าพยายามฆ่า อย่างไรก็ตาม ผมกับดาบตำรวจคนดังกล่าวไม่เคยรู้จักหรือเคยมีเรื่องกันมาก่อนแต่อย่างใด นอกจากนี้ผมก็มีงานเป็นหลักแหล่ง ที่บ้านก็พอมีฐานะและไม่เคยมีประวัติก่อคดีแต่อย่างใด" นายจักรกฤษณ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำ นายจักรกฤษณ์ ผู้ร้องและนำหลักฐานเอกสารทางคดีมาประกอบการสอบสวน ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.
นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ บนถนนลิ้นช้างเขาปูน ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อไปส่งเพื่อนในตัวเมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนเขาปูน ระหว่างนั้นพบรถบิ๊กไบค์คันหนึ่งขับส่ายไปมาเหมือนมีอาการเมาสุรา ตนจึงเตรียมแซงขวา แต่ในถนนบริเวณนั้นเป็นทางโค้ง คนขับรถบิ๊กไบค์คันดังกล่าวซึ่งสวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้หันมามองตน ทำให้รถเสียหลักล้มลง ตนจึงชะลอรถเพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันได้จอดรถลงไป ชายคนดังกล่าวกลับชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ตนกับเพื่อน 2 นัด กระสุนถูกตัวรถก่อนจะกระเด็นเข้ามาถูกบริเวณขาด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บ ด้ายความตกใจเพื่อนซึ่งนั่งซ้อนท้ายได้กระโดดวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือ และเข้าไปหลบภายในบ้านของชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนตนด้วยควากลัวก็ได้เร่งเครื่องขี่รถหนีไป ก่อนโทรแจ้งมารดาว่าถูกยิง จากนั้น มารดาพาเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อว่า ระหว่างที่กำลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนนั้น ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3-4 คน อ้างเป็นตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดฯ และเป็นคนยิงตน พร้อมขออายัดตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการสืบสวนจังหวัด เนื่องจากตนได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่เพื่อชิงทรัพย์รถบิ๊กไบค์ ซึ่งตนปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิง แถมยังถูกยิงอีกต่างหาก แต่เขายืนยันจะพาตนไปสอบสวนต่อ แต่อาของตนที่เป็นทหารใน จ.กาญจนบุรี ได้เข้ามาขัดขวางไว้เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย ขณะที่เพื่อนที่ไปด้วยกันก็ถูกชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจสืบสวนจังหวัดจับกุมตัวหลังเกิดเหตุ และถูกซ้อมขณะให้ปากคำใน สภ.เมืองกาญจนบุรี ด้วย นอกจากนี้กลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดกาญจนบุรี ได้เข้ามาค้นบ้านพักของตนด้วย โดยไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ม.ค. มีหมายจับของศาลมาหา โดยตนถูกแจ้งดำเนินคดีหลายข้อหา ทั้งข้อหาพยายามฆ่า, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพกพาไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
"หลังเกิดเหตุผมเครียดมากที่ถูกแจ้งข้อหาหนัก ทั้งที่ไม่ได้ก่อเหตุตามที่ถูกใส่ร้าย ทั้งนี้ตอนแรกเขาหาว่าชิงทรัพย์รถบิ๊กไบค์ แต่ในสำนวนพบว่าไม่มีข้อหาพยายามชิงทรัพย์แต่อย่างใด และในบันทึกจับกุมก็ไม่ได้มีของกลางอาวุธปืนอีกด้วย ต่อมาผมกับญาติๆ ได้สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ทราบว่า ดาบตำรวจคนดังกล่าว มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายเรื่อง โดยชอบมาตั้งวงกินเหล้ากันในร้านแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุและชอบยิงปืนเล่นภายในร้านอีกด้วย ส่วนการที่เขาแจ้งข้อหาผมก็เพราะกลัวในคดีที่ผมแจ้งความเขาว่าพยายามฆ่า อย่างไรก็ตาม ผมกับดาบตำรวจคนดังกล่าวไม่เคยรู้จักหรือเคยมีเรื่องกันมาก่อนแต่อย่างใด นอกจากนี้ผมก็มีงานเป็นหลักแหล่ง ที่บ้านก็พอมีฐานะและไม่เคยมีประวัติก่อคดีแต่อย่างใด" นายจักรกฤษณ์ กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำ นายจักรกฤษณ์ ผู้ร้องและนำหลักฐานเอกสารทางคดีมาประกอบการสอบสวน ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป.
