ข่าวอุทาหรณ์สาวติดคุกฟรี 8เดือนทนายอาสาช่วยพ้นคดี - kachon.com

อุทาหรณ์สาวติดคุกฟรี 8เดือนทนายอาสาช่วยพ้นคดี
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 77 ม.6 บ้านโคกเพชร  ต.ตระแสง  อ.เมือง จ.สุรินทร์  นางพัชรพร บำเพ็ญเพียร อายุ 49 ปี และนายสมบัติ  บำเพ็ญเพียร  อายุ 51 ปี  พร้อมครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน ได้จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ  ผูกข้อไม้ข้อมือให้กับ น.ส.สุพรรณษา  บำเพ็ญเพียร  อายุ 23 ปี  หลังศาลชั้นต้น มีคำพิพากษายกฟ้อง น.ส.สุพรรณษา  ว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด  ในคดียาเสพติด (ยาบ้า) เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2561  น.ส.สุพรรณษา  ได้ซ้อนรถจักรยานยนต์นายศุภกิจ  นิยมสวน อายุ 21 ปี แฟนหนุ่มที่พึ่งหาคบกันไม่กี่เดือน  เพื่อไปทำธุระ แต่แฟนหนุ่มกลับพาไปส่งยาบ้า จำนวน 41 เม็ด ให้กับสายตำรวจที่ล่อซื้อ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองสุรินทร์  จับกุมได้  พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา มียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งแฟนหนุ่มที่เป็นผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพ โดยให้การว่าน.ส.สุพรรณษา นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ทางตำรวจไม่เชื่อและครอบครัวไม่มีเงินประกันตัว  จนถูกคุมขังในเรือนจำกลางสุรินทร์ฟรี กว่า 8 เดือน ส่วน ขณะที่นายศุภกิจ ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 4 ปี 6 เดือน  ต่อมานายคำสิงห์  ชอบมี  ทนายความอาสาเข้าไปช่วยเหลือทางกฏหมายให้น.ส.สุพรรณษา  ฟรี  จนศาลชั้นต้นตัดสินไม่มีความผิดและได้รับอิสรภาพกลับคืนมาดังกล่าว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างพิธีผูกข้อมือ เรียกขวัญ  น.ส.สุพรรณษา  ถึงกับร้องไห้  ถึงแม้จะได้รับอิสรภาพแล้วก็ตาม เนื่องจากสภาพจิตยังคงอยู่ในอาการย่ำแย่ เนื่องจากต้องถูกคุมขังถึง 8 เดือน ขณะที่ครอบครัวและญาติพี่น้องก็ยืนยันว่า  น.ส.สุพรรณษา  มีสภาพจิตใจที่เปลี่ยนไปมาก หลังจากได้รับอิสรภาพกลับมา พบว่าอยู่ในอาการซึมเศร้า ไม่ค่อยพูดค่อยจา ต่างจากก่อนถูกคุมขังจะเป็นคนร่าเริง  ด้านนางพัชรพร บำเพ็ญเพียร ผู้เป็นแม่ กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า  ดีใจที่ลูกได้ออกจากเรือนจำขอขอบคุณทางด้านทนายความที่อาสาช่วยเหลือโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทนใดๆ  สิ่งที่ต้องการในขณะนี้ก็คือการเยียวยา ชดเชย ให้กับลูกสาวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะต้องไปอยู่ในเรือนจำฟรีถึง 8 เดือน และตอนนี้ลูกก็เปลี่ยนไปมากจากคนที่ร่าเริง ออกมาจากเรือนจำก็เป็นคนไม่พูด ชอบอยู่คนเดียว



นายคำสิงห์ ทนายความ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจลูกหลานว่า เวลาที่จะคบหากับใครนั้นต้องดูให้ดี อย่างน้องคนนี้พึ่งคบกันได้เพียงแค่ 4 เดือน แล้วนั่งรถไปด้วยกันโดยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับคนที่ไปด้วย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มหรือสาว ลูกหลานเยาวชน ถ้าใครชวนไปไหนมาไหนถ้าไม่สนิทกันจริงๆ อย่าได้เชื่อใจอย่าไปเด็ดขาด เดี๋ยวจะโดนข้อหาร่วมกันจำหน่ายหรือครอบครองยาเสพ โดยที่เราไม่รู้เรื่องเลยเหมือนน้องคนนี้ ซึ่งมันจะเป็นความเดือดร้อนให้กับตัวเราเองและก็พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพราะว่าโอกาสที่เราจะต่อสู้คดีหลุดเป็นเรื่องที่ยากมาก ครั้งนี้ถือว่าน้องเขายังมีบุญ แล้วเขาไม่ได้มีร่วมในการกระทำผิด ศาลจึงเชื่อว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีนี้คือตนเป็นทนายประจำกองทุนยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งรับว่าความช่วยเหลือคนยากคนจนผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งหลาย พอดีได้เจอกันเพราะว่าทางพ่อแม่ของน้องไปขอรับความช่วยเหลือจากสำนักงานกองทุนยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ผมจึงได้รับรู้และสอบถามเบื้องต้นแล้วก็เลยได้รับอาสาที่จะช่วยเหลือ จนได้รับอิสรภาพ