ดาบยิงเด็กเทคโนฯยันทำตามหน้าที่ อส.รับเป็นผู้ลั่นไก
อาชญากรรม
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามแนวทางการสืบสวนได้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุชุดปราบปรามยาเสพติดของ บก.น.4 สามารถจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาจากย่านโชคชัย ก่อนควบคุมตัวมาขยายผลล่อซื้อบริเวณถนนเคหะร่มเกล้า โดยในขบวนรถคันแรกเป็นของหัวหน้าชุดคันที่สองเป็นรถของทีมงานเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งขับล่วงหน้าไปก่อนและคันสุดท้ายเป็นรถกระบะยี่ห้อมาสด้า สีเทา ที่มี ด.ต.วิรัตน์ ชีตารัตน์ เป็นคนขับ และมี ด.ต.เอกกวี วงศ์ชนะ เป็นผู้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้บริเวณกระบะท้าย โดยมีรถ จยย.ของผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่ตามประกบมา 3 คันโดยเป็นรถของผู้ต้องหาคดียาเสพติด 1 คัน
เมื่อถึงจุดเกิดเหตุปรากฏถูกกลุ่มรถ จยย.ของผู้ตายที่เพิ่งกลับจากงานเลี้ยงของสถาบันย่านจระเข้น้อย ขี่เข้ามาตีคู่บริเวณท้ายกระบะและมีการด่าทอกัน จากนั้นกลุ่มผู้ตายได้ถามว่า “ใครด่าแม่กู” ก่อนจะพยายามขี่ปาดหน้ารถกระบะคันที่สามแล้วใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีร่องรอยของหัวกระสุนฝังอยู่ภายในตัวถัง และที่ยางล้อรถอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจขับรถกระบะพุ่งชนรถ จยย. คันดังกล่าว เพื่อระงับเหตุ ทำให้รถ จยย.คันดังกล่าวที่มีนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เป็นคนขี่ และมีผู้ตายนั่งซ้อน เสียหลักล้มลง จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาพยายามจะเข้าจับกุมตัว แต่ผู้ตายกลับยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาจึงตัดสินใจยิงสวนตอบโต้ไปตามยุทธวิธีกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมา หัวหน้าชุดจับกุมที่สวมใส่เสื้อยืดสีแดงตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอได้ขับรถกลับมาดูบริเวณจุดเกิดเหตุพร้อมแจ้งผู้เกี่ยวข้องตามขั้นตอนและยืนรถให้ปากคำ แต่ขณะนั้นกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตได้กรูกันจะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากเข้าใจว่าชายเสื้อสีแดง ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดจับกุมเป็นคนยิงผู้ตาย และระหว่างชุลมุนเจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวเห็นว่าอาจจะเป็นอันตรายเพราะกลุ่มเพื่อนของผู้ตายเริ่มประชิดตัวเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยอารมณ์โกรธแค้นจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า2 นัด ขณะเดียวกันทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ ด.ต.เอกกวี วงศ์ชนะ ไปตรวจคราบเขม่าปืนเพราะในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. และ 11 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาใช้ตกอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเกือบตลอดทั้งวัน ปรากฏว่าสุดท้ายแล้วทาง นายชวลิต ตำรวจอาสา ออกมายอมรับว่าเป็นยิงผู้ตาย หลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อล่อซื้อยาเสพติด กระทั่งมาประสบเหตุและเห็น นายวิฑูรย์ แซ่แต้ อายุ 35 ปี อาสาตำรวจอีกคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณขาซ้าย เบื้องต้นจึงมีการควบคุมตัวนายชวลิต และ ด.ต.เอกกวี แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”ดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยทาง ด.ต.เอกกวี ยังให้การภาคเสธ อ้างว่าปฏิบัติทุกอย่างไปตามหน้าที่อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ตายพบว่าเคยถูกจับคดีครอบครองอาวุธปืนและคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ สน.หัวหมาก เมื่อปี 2558 และคดีหลบหนีการเกณฑ์ทหารในพื้นที่สน.ประเวศ เมื่อปี2561 ด้วย.
ติดตามข่าว "ตำรวจยิงเด็กเทคโนฯ" ได้ทั้งหมดที่นี่..คลิก...