สาวโพสต์เฟซฯเผาไร่อ้อยโชว์ ถูกซิวอ้างรู้ไม่ถึงการณ์
อาชญากรรม
Webmaster
2019-02-11 21:45:00
30
Webmaster
2019-02-11 21:45:00
30
-
สนับสนุนเนื่อหา
จากกรณีโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากพบว่ามีผู้ใช่เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความและรูปว่าได้เผาไร่อ้อยของตัวเองนับ 10 ไร่ ก่อนจะเก็บเกี่ยว ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ในช่วงที่หลายพื้นที่ในต่างจังหวัด กำลังพบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในปริมาณที่มาก จนเกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายศุภชัยลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อม พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง และ พ.ต.ท.ตรีเทพ ทองนอก สารวัตรสอบสวน ร่วมกันสอบปากคำ น.ส.พิมพ์ชนก ภวภูวตานนท์ อายุ 30 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก ญิ๋ง เล็ก ที่โพสต์ข้อความว่า "...จุดอ้อยกะพ่อค่ะครั้งแรกในชีวิต ที่ไร่เล็กเอง 10 ไร่ ขอให้ได้ตังเยอะๆ นร้า...อ้อยปีแรกคิดในใจต้องปลุกอ้อยอีกกี่ปี ถึงจะได้เงินหนึ่งล้านสามแสนบาทที่ซื้อนาคืน..." ก่อนจะโพสต์รูปขณะกำลังเผาไร่อ้อย ในช่วงกลางคืนจนควันท่วมไปทั้งบริเวณ
เบื้องต้น น.ส.พิมพ์ชนก รับสารภาพว่า ไม่ทราบว่ามีประกาศของทางจังหวัดเกี่ยวเรื่องการห้ามเผาอ้อย โดยตนซื้อที่แปลงดังกล่าวในราคาล้านบาทเศษ เพื่อให้พี่สาวทำการปลูกอ้อยส่งโรงงาน ในช่วงที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2560 ขณะที่จะมีการตัดอ้อยจึงได้ไปกับพ่อ เพื่อทำการเผาก่อนตัดจึงได้ถ่ายภาพเพื่อให้เพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊กดู ภายหลังต้องกราบขอโทษสังคมด้วย เนื่องจากตนทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ด้านนายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า ถือว่าเป็นการเย้ยประกาศของทางจังหวัดเป็นอย่างมาก เพราะทั้งจังหวัดได้ประกาศให้เจ้าของอ้อยอย่าเผาอ้อยก่อนตัดเข้าโรงงาน เนื่องจากเป็นการสร้างมลพิษ ทั้งฝุ่น ควัน เขม่าดำ ทางจังหวัดและอำเภอต่างช่วยกันกำจัดหรือลดฝุ่นที่เกินมาตรทำให้เกิดอันตรายต่อุขภาพ เสียงบประมาณมาจำนวนมาก ในเมื่อประกาศแล้วยังไม่หัความร่วมมือก็จะต้องทำการจับปรับ โดยไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่ในเมื่อเจ้าตัวออกมารับผิดชอบแล้ว ก็ต้องมีการเปรียบเทียปรับตามกฏหมาย
ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ ได้ให้พนักงานสอบสวนทำการเปรียบเทียบปรับ ตามข้อหาฝ่าฝืนประกาศคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น กระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดฝุ่นละอองเขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรือ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (พรบ.สาธารณสุข) จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นความผิดลหุโทษ และในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพจึงปรับเงิน 1,000 บาท.
