ข่าวศาลสั่งเลื่อนสืบคดีก่อการร้าย ให้จำเลยไปหาเสียงเลือกตั้ง - kachon.com

ศาลสั่งเลื่อนสืบคดีก่อการร้าย ให้จำเลยไปหาเสียงเลือกตั้ง
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ศาลนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก คดีก่อการร้าย หมายเลขดำอ.2542/2553 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 71 ปี อดีตประธาน นปช. ,นายจตุพร หรือ ตู่ พรหมพันธุ์ อายุ 54 ปี ประธาน นปช. ,นายณัฐวุฒิ หรือเต้น ใสยเกื้อ อายุ 44 ปี อดีต รมช.พาณิชย์รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ,นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 68 ปี ,นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก อายุ 61 ปี ,นายอริสมันต์ หรือ กี้ พงษ์เรืองรอง อายุ 55 ปี แกนนำและแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รวม 24 คน เป็นจำเลยที่ 1- 24 เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย และข้อหาอื่นๆ กรณีกลุ่ม นปช.ชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 28 ก.พ.2553 ถึงวันที่ 20 พ.ค.2553 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งหมดกับพวกอีกหลายคนซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง และพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งถึงแก่ความตายแล้ว ร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมาย กล่าวคือ จำเลยที่ 1 ประธานกลุ่ม (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง กับจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 11 ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่ม (นปช.) ได้ยุยง ปลุกปั่นประชาชนทั่วราชอาณาจักรไทยให้เข้าร่วมชุมนุมและทำกิจกรรม โดยมีความมุ่งหมายที่จะต่อต้านรัฐบาล, จำเลยกับพวกได้ร่วมกันจัดให้มีการชุมนุม, จำเลยกับพวกได้สะสมกำลังพลและอาวุธสงครามร้ายแรง, จำเลยกับพวกฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, จำเลยกับพวกร่วมกันบุกรุกเข้าไปในสถานที่ต่างๆ และยิงระเบิดใส่สถานที่ต่างๆ, ปิดถนนตั้งด่านสกัดตรวจค้นยานพาหนะ ก่อให้เกิดความวุ่นวายและความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง เหตุเกิดที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ ในประเทศไทย เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฏหมาย มาตรา 135/1, 135/2



วันนี้จำเลยส่วนใหญ่ได้รับการประกันตัว เดินทางมาสืบพยานจำเลยนัดแรก 

เมื่อถึงเวลาศาลออกนั่งบัลลังก์ ทนายจำเลยได้แถลงร่วมกันต่อศาลขอเลื่อนนัดสืบพยานจำเลยออกไป เนื่องจากระยะเวลาการสืบพยานจำเลยอยู่ในช่วงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำเลยบางคนต้องเดินทางไปหาเสียง และจำเลยบางคนต้องเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนพยานหลักฐานที่จะนำขึ้นต่อสู้อยู่ระหว่างเตรียมคำเบิกความ และจัดทำเป็นเอกสารนำมาให้อัยการในวันที่ 29 มี.ค. เมื่อถึงเวลาสืบพยานจำเลยโจทก์จะได้ถามค้านได้เลยไม่ต้องเสียเวลา   

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กระบวนการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงการสืบพยานจำเลย ดังนั้นจึงอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานจำเลยได้ แต่ศาลขอความร่วมมือให้สืบพยานจำเลยให้แล้วเสร็จในกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยให้ยกเลิกวันนัดทั้งหมดในเดือน ก.พ. และเดือน มี.ค. และเริ่มสืบพยานจำเลยนัดแรก 4 เม.ย.  

ด้านนายปกาสิต ไตรยสุนันท์ ทนายจำเลยที่ 1 กล่าวว่า วันนี้เป็นวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก แต่เอกสารในคดีมีเป็นจำนวนมาก เราเลยขอความกรุณาศาลว่า เนื่องจากจำเลยหลายคนเป็นนักการเมือง ซึ่งมีภารกิจทางด้านประชาธิปไตย จึงขออนุญาตศาลว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ขอเปิดโอกาสให้จำเลยไปหาเสียง ขอยกเลิกนัดทั้งหมดในเดือนนี้ และเดือน มี.ค. และไปเริ่มสืบพยานจำเลยนัดแรกในเดือน เม.ย. ซึ่งมีวันนัดอยู่แล้ว ศาลท่านก็กรุณาว่าควรเปิดโอกาสให้จำเลยไปช่วยกันจรรโลงประชาธิปไตย อย่างไรก็ตามพยานบุคคลที่จะนำสืบในศาลเตรียมไว้เป็นจำนวนมาก แต่เวลาสืบจริงประมาณ 50 ปาก โดยมั่นใจว่าจำเลยทั้งหมดถูกเกมการเมืองเล่นงาน และในฐานะทนายก็เชื่อว่าลูกความตนเป็นผู้บริสุทธิ์