ข่าวมีนบุรีวุ่นผู้ต้องหาหนีห้องขัง เดินชิลลอยนวลแค่12วินาที - kachon.com

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ร.ต.อ.ผดุง หล่อนิล รองสว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ทาง ด.ต.สายันต์ รักภักดี เจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหาได้เข้ามาแจ้งความว่า นายอิสรา เลาะมณี อายุ 30 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่15 ซอยราษฎร์อุทิศ 28 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่ จ.261/2558 ลงวันที่ 24 มี.ค.58 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หลบหนีออกจากห้องขังของโรงพัก จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าว แต่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่อย่างใด

จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากห้องขังของ สน.มีนบุรี ไปในเวลา 19.32 น.ของวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล นุ่งกางเกงยีนสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ เดินออกจากห้องขังหลบหนีไป ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่ถึง 12 วินาที โดยช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวรของ ด.ต.สมยศ เพ็ชรสะอาด เจ้าหน้าที่ควบคุมห้องขังในเวลา 16.01-00.00 น.เป็นผู้รับผิดชอบดูแล เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนว่าผู้ต้องหารายนี้หลบหนีจากห้องขังได้อย่างไร

ทั้งนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทาง สน.มีนบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ปรากฎว่าทาง พ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.มีนบุรี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยอ้างว่าไม่สะดวก ขณะที่ผู้บังคับบัญชาของ บก.น.3 ก็ไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด ส่วน ด.ต.สมยศ ยังคงปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมห้องขังในเวลาเดิม ขณะที่ผู้ต้องหามีหมายจับข้อหาลักทรัพย์ในหลายท้องที่ โดยเน้นย่านฝั่งธนบุรี และย่านที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวเตร่กัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สส.บก.น.3 ได้ลงพื้นที่พร้อมกับ สน.มีนบุรี เพื่อไล่ล่าตัวผู้ต้องหาหนีห้องขังมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว พร้อมกับสอบสวนตำรวจ ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไรต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า มีเหตุผู้ต้องหาหลบหนีออกจากห้องขังจริง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ หลังจากนี้จะมีการดำเนินคดีอาญากับนายตำรวจที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ในข้อหา"กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาที่อยู่ในการควบคุมหลบหนี " ซึ่งตามกฎหมายจะมีเวลา 90 วัน ในการตามตัวคนร้ายกลับมาดำเนินคดี ส่วนโทษทางวินัยจะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษ ซึ่งโทษที่ได้รับเบื้องต้นคือขัง 30 วัน  แต่ถ้าหากตามตัวผู้ต้องหากลับมาได้ตามเวลาที่กำหนด ก็จะมีการพิจารณาโทษอีกครั้งตามที่กฎหมายกำหนดไว้