ข่าวเหยื่อสู้กัดนิ้วคือเบาะแส รวบมือแทง'ป้า'-แถหาเงินแต่ง - kachon.com

กรณีคนร้ายบุกเดี่ยวกลางดึกเข้าไปชิงทรัพย์ที่ร้านขายของชำ เลขที่ 460 หมู่ 2 ต.หนองสาหร่าย อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี และใช้ของแข็งมีปลายแหลมทำร้าย นางสมหมาย ล้อมวงษ์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน จนมีบาดแผลทั่วร่างกายต้องเย็บรวมกว่า 100 เข็ม ก่อนหลบหนีไป ทิ้งไว้เพียงรองเท้าแตะให้ดูต่างหน้า เหตุเกิดกลางดึกของคืนวันที่ 21 ก.พ.

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 25 ก.พ. พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังคเกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ยิ่งยศ เขินอำนวย ผกก.สภ.ดอนเจดีย์ นำตัว นายเมธี เกษมณี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาเจ้าของฉายา "ธี หนองสาหร่าย" มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดย ผบก.สุพรรณบุรี เผยว่า ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านพักคนงานในค่ายลูกเสือพงษ์รัตน์ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลางทั้งหมวกไอ้โม่ง เสื้อ กางเกงที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และพบรอยแผลฉกรรจ์ที่นิ้วหัวแม่มือขวาจากการที่ถูกผู้เสียหายกัด ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่สุด โดย นายเมธี สารภาพอ้างว่า เป็นผู้ที่ก่อเหตุจริง เนื่องจากต้องการเงินไปขอผู้หญิงแต่งงาน



จากนั้นได้นำตัวไปทำแผน 3 จุด พร้อมขอกำลังรวมกว่า100 นาย คอยคุมกันเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกรุมประชาทัณฑ์ เพราะมีชาวบ้านที่ทราบข่าวพร้อมญาติผู้บาดเจ็บมายืนดูพร้อมด่าทอสาปแช่งผู้ต้องหาจำนวนมาก จุดแรกที่บริเวณกลางบ้านใกล้ห้องน้ำที่คนร้ายเข้าล็อกและทำร้ายเจ้าของบ้านด้วยเหล็กแป๊ปปลายแหลมเป็นแผลทั่วทั้งตัว จุดที่ 2 คือในห้องน้ำที่คนร้ายถอดกระเบื้องแล้วแอบเข้าไปในบ้านและใช้หลบหนี  และจุดสุดท้ายคือหน้าห้องนอนของคนเจ็บ เมื่อทำแผนเสร็จขณะกำลังพาตัวกลับขึ้นรถ ปรากฏว่ามีชาวบ้านที่กำลังโมโหได้ฝ่าแนวกั้นของตำรวจที่ตรึงไว้กรูเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาจนเกิดโกลาหล ต้องรีบรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ออกไปอย่างเร่งด่วน

ด้าน พ.ต.อ.ยิ่งยส เขินอำนวย ผกก.สภ.ดอนเจดีย์ เผยว่า นายเมธี มีประวัติการก่อคดีอุกฉกรรจ์มาหลายครั้งและเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ มีพยานหลักฐานหลายอย่างยืนยันชัดเจน โดยเฉพาะบาดแผลที่นิ้วมือที่โดนเหยื่อกัดอย่างแรงตอนดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน นำมาสู่การจับกุมในที่สุด สำหรับประวัติเมื่อปี 2557 เคยก่อคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในท้องที่ สภ.ดอนเจดีย์ ถูกจำคุก 3 ปี และเมื่อปี 2560 เคยก่อคดีวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ในท้องที่ สภ.ดอนเจดีย์ ถูกจำคุก 3 ปี แต่ได้รับการลดโทษจึงได้ออกมาก่อน จนกระทั่งมาก่อเหตุอีกดังกล่าว.