หลอกข่มขืนพี่สาวไม่พอ เจอน้องลวงขยี้กามป่าข้างทาง
อาชญากรรม
สอบสวน นายเอกรัฐ รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตั้งใจจะไปหาพี่สาวของผู้เสียหายที่หอพักแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับห้างแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบตัว เจอแต่ น.ส.เอ ผู้เสียหายซึ่งเป็นน้องสาวอยู่ในห้องเพียงลำพัง จึงออกอุบายลวงพาผู้เสียหายขึ้นรถ จยย. แล้วขับพาไปที่ร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของห้าง จากนั้นจึงกระทำอนาจารพร้อมกับบังคับให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าออกเพื่อถ่ายคลิปเก็บไว้ แต่ระหว่างนั้นได้มีคนเดินผ่านมาพอดี จึงได้กระชากตัวผู้เสียหายขึ้นรถแล้วขับพาไปที่ซอยคุณากรแมนชั่น ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 กม. เนื่องจากเป็นซอยเปลี่ยวและมีป่ารกร้างของเอกชนที่ยังไม่ได้ทำประโยชน์ ก่อนจะฉุดกระชากผู้เสียหายเข้าไปภายในป่าแล้วใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความไคร่ แล้วนำตัวกลับไปส่งที่ทางเข้าหอพัก พร้อมกับพูดขู่บังคับว่าห้ามนำเรื่องไปบอกใคร กระทั่งมาทราบในภายหลังว่าผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ท่าข้าม จึงได้หลบหนีไปตามที่ต่างๆ กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังทราบอีกว่า พี่สาวของผู้เสียหายยังถูก นายเอกรัฐ หลอกข่มขืนมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ได้แจ้งความ ก่อนจะตามไปหาเพื่อหวังมีเพศสัมพันธ์ด้วยอีก แต่ไม่พบตัวและเจอน้องสาวเข้าจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 3 ครั้ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ประกอบด้วยคดีรับของโจรและคดีร่วมกันลักทรัพย์ พื้นที่ สภ.บางแก้ว เมื่อปี 58 และ ปี 59 และคดีพกพาอาวุธปืน ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ เมื่อปี 59 ศาลพิพากษาให้จำคุก 1 ปี กระทั่งพ้นโทษออกมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่ง สภ.ท่าข้าม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.