ข่าวหลอกข่มขืนพี่สาวไม่พอ เจอน้องลวงขยี้กามป่าข้างทาง - kachon.com

หลอกข่มขืนพี่สาวไม่พอ เจอน้องลวงขยี้กามป่าข้างทาง
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สันติ ไชยนิรามัย รองผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายเอกรัฐ หรือ อาร์ม บุญแต่ง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/1 หมู่ 1 ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 730/2561 ลงวันที่ 30 ต.ค. 61 ข้อหา "พรากผู้เยาวน์เด็กอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ข่มขืนกระทำชำเรา โดยใช้กำลังประทุษร้าย" หลังจากเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 61 ที่ผ่านมา นายเอกรัฐ ได้ก่อเหตุใช้กำลังบังคับข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เหตุเกิดบริเวณป่ารกร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ย่านท่าข้าม ก่อนหลบหนีไปซ่อนตัวตามพื้นที่ต่างๆ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าปัจจุบันได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องพักเลขที่ 201 เจริญสุข อพาร์ทเมนท์ ซอยเอกชัย76 แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว



สอบสวน นายเอกรัฐ รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตั้งใจจะไปหาพี่สาวของผู้เสียหายที่หอพักแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับห้างแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบตัว เจอแต่ น.ส.เอ ผู้เสียหายซึ่งเป็นน้องสาวอยู่ในห้องเพียงลำพัง จึงออกอุบายลวงพาผู้เสียหายขึ้นรถ จยย. แล้วขับพาไปที่ร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของห้าง จากนั้นจึงกระทำอนาจารพร้อมกับบังคับให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าออกเพื่อถ่ายคลิปเก็บไว้ แต่ระหว่างนั้นได้มีคนเดินผ่านมาพอดี จึงได้กระชากตัวผู้เสียหายขึ้นรถแล้วขับพาไปที่ซอยคุณากรแมนชั่น ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 กม. เนื่องจากเป็นซอยเปลี่ยวและมีป่ารกร้างของเอกชนที่ยังไม่ได้ทำประโยชน์ ก่อนจะฉุดกระชากผู้เสียหายเข้าไปภายในป่าแล้วใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความไคร่ แล้วนำตัวกลับไปส่งที่ทางเข้าหอพัก พร้อมกับพูดขู่บังคับว่าห้ามนำเรื่องไปบอกใคร กระทั่งมาทราบในภายหลังว่าผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ท่าข้าม จึงได้หลบหนีไปตามที่ต่างๆ กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังทราบอีกว่า พี่สาวของผู้เสียหายยังถูก นายเอกรัฐ หลอกข่มขืนมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ได้แจ้งความ ก่อนจะตามไปหาเพื่อหวังมีเพศสัมพันธ์ด้วยอีก แต่ไม่พบตัวและเจอน้องสาวเข้าจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 3 ครั้ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ประกอบด้วยคดีรับของโจรและคดีร่วมกันลักทรัพย์ พื้นที่ สภ.บางแก้ว เมื่อปี 58 และ ปี 59 และคดีพกพาอาวุธปืน ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ เมื่อปี 59 ศาลพิพากษาให้จำคุก 1 ปี กระทั่งพ้นโทษออกมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่ง สภ.ท่าข้าม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.