นายจ้างแจ้งจับ'พ่อเมาโหด' กระทืบลูก2ขวบแค่'อ้วกเลอะ'
อาชญากรรม
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Piroon Tutubthim โพสต์คลิปวีดีโอซึ่งเป็นเหตุการณ์บิดาลงโทษบุตรชายอย่างทารุณโดยมีความยาวประมาณ 1.31 นาที พร้อมทั้งระบุข้อความว่าทำนองว่าแจ้งฝ่ายงานเกี่ยวข้องดูแลแล้วแต่ก็ยังไม่มีการลงพื้นที่ สงสัยว่าเด็กคงจะต้องตายก่อน ขณะที่ตำรวจเรียกพ่อเด็กไปคุย ก่อนปล่อยตัวกลับแล้ว เพราะกฎหมายยังไม่สามารถควบคุมตัวได้ ขณะที่อาการของน้องที่โดนพ่อใช้ด้ามไม้กวาดตีและกระทืบนั้น แม่เด็กไปรับกลับแล้วเช่นกัน ทำให้โลกออนไลน์ที่รับทราบข่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นวงกว้าง รวมทั้งรุมต่อว่าการกระทำของพ่อเด็กว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง ทำร้ายได้แม้กระทั่งลูกแท้ ๆ ของตัวเอง
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายพิรุฬห์ ตู้ทับทิม อายุ 43 ปี กล่าวว่า ในวันนี้ตนเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีภายหลังเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนได้นำหลักฐานเป็นคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดมามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับลูกจ้างที่ทำร้ายร่างกายบุตรชายอย่าโหดเหี้ยม พร้อมทั้งรอให้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาช่วยรับตัวน้องที่ถูกทำร้ายร่างกายไปอยู่ในความดูแล แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามตัวน้องได้ ตนเป็นห่วงเรื่องของตัวน้องมากกว่า ส่วนเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นตนไม่เป็นห่วงเนื่องจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมกันเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว
เจ้าของคาร์แคร์ กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา นายจิรวัฒน์ สุภาวิมล อายุ 26 ปี พร้อมด้วยน.ส.เฉลิมรัตน์ จริงจิตร อายุ 24 ปี เดินทางมาสมัครงานกับตนที่ร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในซอยทวีวัฒนา 9 แขวงและเขตทวีวัฒนา ซึ่งขณะนั้นทางร้านอยู่ระหว่างการต่อเติมร้านเพื่อเตรียมจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ ตนจึงตัดสินใจรับทั้งคู่เอาไว้เนื่องจากเห็นว่ามีบุตรชายวัย 2 ขวบ และฝ่ายหญิงตั้งท้องแก่อยู่ด้วย จึงให้ไปพักอาศัยอยู่บ้านพักคนงานซึ่งปลูกสร้างด้วยไม้ชั้นเดียว หลังจากนั้นในวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมาฝ่ายหญิงก็ไปคลอดบุตร ก่อนเดินทางกลับมาพักอาศัยที่บ้านพักคนงานตามปกติ
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของในวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา หุ้นส่วนตนได้รับการร้องเรียนจากหอพักที่อยู่ติดกันว่า บ้านพักคนงานมีการทำร้ายร่างกายเด็กจนส่งเสียงดังรบกวน ตนเห็นว่าผิดปกติจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเวลา 23.00 น. พบเหตุการณ์ที่นายจิรวัฒน์ ใช้ด้ามไม้กวาดพลาสติก ตีบุตรชายจนหัก อีกทั้งยังมีการทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยมทั้งเตะเข้าที่ใบหน้า และกระทืบตามคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ตนได้โพสต์เอาไว้ ตนรับไม่ได้ถึงการกระทำที่เกิดขึ้นจึงตัดสินใจไล่ออกจากงานในทันที โดยระหว่างที่ตนโพสต์ข้อความนั้น นายจิรวัฒน์ ยังอยู่ในอาการมึนเมา สอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ให้ข้อมูลว่า บุตรชายไปขโมยขวดนมน้องมาดื่มจนอาเจียนทั่วบ้าน ทำให้เกิดบันดาลโทสะ ขณะที่แม่เด็กคือ น.ส.เฉลิมรัตน์ ยังคงหลับอยู่โดยไม่รู้ว่าลูกชายถูกพ่อตี ซึ่งตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้เรื่องเช่นนี้ จึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ก่อนจะพาเด็กที่ถูกทำร้ายไปตรวจร่างกายที่รพ.ราชพิพัฒน์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 พบว่าเด็กยังอยู่ในอาการหวาดกลัว มีร่องรอยบอบช้ำตามร่างกาย โดยเฉพาะ ตาขาวข้างขวาช้ำมีเลือดคลั่ง จนต้องพูดคุยให้จิตใจดีขึ้น ก่อนที่แม่เด็กจะมารับไปอยู่ จ.ปทุมธานี และไม่สามารถติดต่อได้อีก ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ศาลาแดง ได้ประสานไปยังสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อร่วมกันลงพื้นที่ติดตามตัวช่วยเหลือน้อง ทั้งนี้หากพบตัวก็จะส่งให้ทางกระท
นายพิรุฬห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนได้พาน้องไปตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ด้วยตนเองซึ่งน้องยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ตัวสั่น ลูกตาขาวข้างขวาช้ำมีเลือดคลั่ง และบอบช้ำตามร่างกาย แต่ภายหลังจากที่ตนได้คุยได้เล่นก็มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น จากนั้นทางน.ส.เฉลิมรัตน์ ได้รับตัวกลับไปอยู่ที่จ.ปทุมธานี ซึ่งมาจนถึงขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ศาลาแดง ได้ประสานไปยังสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อร่วมกันลงพื้นที่ติดตามตัวช่วยเหลือน้อง ทั้งนี้หากพบตัวก็จะส่งให้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแลตามกฎหมายต่อไป.
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายพิรุฬห์ ตู้ทับทิม อายุ 43 ปี กล่าวว่า ในวันนี้ตนเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีภายหลังเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนได้นำหลักฐานเป็นคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดมามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับลูกจ้างที่ทำร้ายร่างกายบุตรชายอย่าโหดเหี้ยม พร้อมทั้งรอให้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาช่วยรับตัวน้องที่ถูกทำร้ายร่างกายไปอยู่ในความดูแล แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามตัวน้องได้ ตนเป็นห่วงเรื่องของตัวน้องมากกว่า ส่วนเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นตนไม่เป็นห่วงเนื่องจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมกันเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว
เจ้าของคาร์แคร์ กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา นายจิรวัฒน์ สุภาวิมล อายุ 26 ปี พร้อมด้วยน.ส.เฉลิมรัตน์ จริงจิตร อายุ 24 ปี เดินทางมาสมัครงานกับตนที่ร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในซอยทวีวัฒนา 9 แขวงและเขตทวีวัฒนา ซึ่งขณะนั้นทางร้านอยู่ระหว่างการต่อเติมร้านเพื่อเตรียมจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ ตนจึงตัดสินใจรับทั้งคู่เอาไว้เนื่องจากเห็นว่ามีบุตรชายวัย 2 ขวบ และฝ่ายหญิงตั้งท้องแก่อยู่ด้วย จึงให้ไปพักอาศัยอยู่บ้านพักคนงานซึ่งปลูกสร้างด้วยไม้ชั้นเดียว หลังจากนั้นในวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมาฝ่ายหญิงก็ไปคลอดบุตร ก่อนเดินทางกลับมาพักอาศัยที่บ้านพักคนงานตามปกติ
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของในวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา หุ้นส่วนตนได้รับการร้องเรียนจากหอพักที่อยู่ติดกันว่า บ้านพักคนงานมีการทำร้ายร่างกายเด็กจนส่งเสียงดังรบกวน ตนเห็นว่าผิดปกติจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเวลา 23.00 น. พบเหตุการณ์ที่นายจิรวัฒน์ ใช้ด้ามไม้กวาดพลาสติก ตีบุตรชายจนหัก อีกทั้งยังมีการทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยมทั้งเตะเข้าที่ใบหน้า และกระทืบตามคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ตนได้โพสต์เอาไว้ ตนรับไม่ได้ถึงการกระทำที่เกิดขึ้นจึงตัดสินใจไล่ออกจากงานในทันที โดยระหว่างที่ตนโพสต์ข้อความนั้น นายจิรวัฒน์ ยังอยู่ในอาการมึนเมา สอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ให้ข้อมูลว่า บุตรชายไปขโมยขวดนมน้องมาดื่มจนอาเจียนทั่วบ้าน ทำให้เกิดบันดาลโทสะ ขณะที่แม่เด็กคือ น.ส.เฉลิมรัตน์ ยังคงหลับอยู่โดยไม่รู้ว่าลูกชายถูกพ่อตี ซึ่งตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้เรื่องเช่นนี้ จึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ก่อนจะพาเด็กที่ถูกทำร้ายไปตรวจร่างกายที่รพ.ราชพิพัฒน์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 พบว่าเด็กยังอยู่ในอาการหวาดกลัว มีร่องรอยบอบช้ำตามร่างกาย โดยเฉพาะ ตาขาวข้างขวาช้ำมีเลือดคลั่ง จนต้องพูดคุยให้จิตใจดีขึ้น ก่อนที่แม่เด็กจะมารับไปอยู่ จ.ปทุมธานี และไม่สามารถติดต่อได้อีก ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ศาลาแดง ได้ประสานไปยังสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อร่วมกันลงพื้นที่ติดตามตัวช่วยเหลือน้อง ทั้งนี้หากพบตัวก็จะส่งให้ทางกระท
นายพิรุฬห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนได้พาน้องไปตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ด้วยตนเองซึ่งน้องยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ตัวสั่น ลูกตาขาวข้างขวาช้ำมีเลือดคลั่ง และบอบช้ำตามร่างกาย แต่ภายหลังจากที่ตนได้คุยได้เล่นก็มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น จากนั้นทางน.ส.เฉลิมรัตน์ ได้รับตัวกลับไปอยู่ที่จ.ปทุมธานี ซึ่งมาจนถึงขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ศาลาแดง ได้ประสานไปยังสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อร่วมกันลงพื้นที่ติดตามตัวช่วยเหลือน้อง ทั้งนี้หากพบตัวก็จะส่งให้ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแลตามกฎหมายต่อไป.
โพสต์โดย Piroon Tutubthim เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2019