แจ้งจับเพื่อนสาวตุ๋นลงทุน หุ้นกระยาสารทสูญเฉียด2ล.
อาชญากรรม
Webmaster
2019-03-04 18:15:00
21
Webmaster
2019-03-04 18:15:00
21
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. น.ส.นงนุช จิณรักษ์ ชาวอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา พนักงานสาวโรงงานผลิตของเล่นแห่งหนึ่งใน อ.บางบางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมผู้เสียหายอีก 2 ราย ได้หอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.โสภณ โสภณมงคลรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ และ พ.ต.ท. ประมวล ทองพู รองผกก.สอบสวน ให้เอาผิดเพื่อนสาว คือ น.ส.วารุณี เทียนประภา หรือ แหม่ม อายุ 29 ปี ในข้อหาฉ้อโกง หลังจากถูกหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจ ทำกระยาสารทขายเป็นขอฝากให้กับทัวร์จีน และตามร้านขายของฝากในย่าน อ.ศรีราชา และตลาดหนองมน จ.ชลบุรี รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.นงนุช ผู้เสียหาย ได้ถูก น.ส.วารุณี เพื่อนสาว ชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจขายกระยาสารทส่งออกเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยจะขายให้แก่บริษัททัวร์ อย่างเช่น สั่งกระยาสารทมา 100 บาท ทำหีบห่อแพคขาย 300 บาท ได้กำไร 200 บาท ซึ่ง น.ส.นงนุช เห็นว่ากำไรดี จึงลงทุนคนละครึ่งกับ น.ส.วารุณี โดยมีการทำสัญญาและตกลงเงินมัดจำ ภายหลังมีการแจ้งว่าผลิตกระยาสารทเสร็จแล้วขายได้แล้ว แต่เงินยังไม่ได้ เพราะมีออเดอร์เพิ่มขึ้นมาอีก ประกอบกับชาวบ้านที่บุรีรัมย์ผลิตไม่ทัน แต่หากขายได้แล้วจะได้เงินประมาณ 837,500 บาท จนกระทั่งเวลาผ่านไปปรากฏว่าเงินดังกล่าวก็ยังไม่เข้า
ขณะที่ฝ่ายน.ส.วารุณี ทำทีอ้างว่ามียอดสั่งมาอีก 5,000 กก. และต้องการเงินทุนเพิ่ม ทาง น.ส.นงนุช เห็นว่าน่าจะลงทุนผลิตเอง จึงระดมเงินลงทุนกับแม่และน้องสาว ทำกระยาสารทให้ทันต่อความต้องการ ปรากฏว่าทันในวันส่งมอบของ ฝ่าย น.ส.วารุณี กลับอ้างว่าไม่ว่าง พอโทรไปให้เคลียร์เงินที่ค้างกลับบ่ายเบี่ยงจนสุดท้ายปิดโทรศัพท์หนีไป ภายหลังจึงเข้าแจ้งความร่วมกับผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนลักษณะเดียวกันอีก 2 ราย ที่ต้องสูญเงินรวมกว่า 9 แสนบาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเป็นเงินเกือบ 2 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้ปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด เพราะ อาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกง เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานได้แล้ว ก็จะให้ทางพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกตัวมาเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ คู่กรณีเป็นคนเคยรู้จักกัน และเคยทำงานร่วมกันก็เลยเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ยอมจ่ายเงินตามที่ผู้ถูกแจ้งอ้างว่าจะเอาไปลงทุนกัน เท่าที่พูดคุยเบื้องต้น ก็อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกง ก็อยากจะฝากเตือนว่า ถ้ามีคนมาชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยเสนอผลกำไรล่อใจ ก็อยากให้ตรวจสอบต้นทางให้แน่ชัดก่อน ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.นงนุช ผู้เสียหาย ได้ถูก น.ส.วารุณี เพื่อนสาว ชักชวนให้ร่วมทำธุรกิจขายกระยาสารทส่งออกเพื่อเป็นรายได้เสริม โดยจะขายให้แก่บริษัททัวร์ อย่างเช่น สั่งกระยาสารทมา 100 บาท ทำหีบห่อแพคขาย 300 บาท ได้กำไร 200 บาท ซึ่ง น.ส.นงนุช เห็นว่ากำไรดี จึงลงทุนคนละครึ่งกับ น.ส.วารุณี โดยมีการทำสัญญาและตกลงเงินมัดจำ ภายหลังมีการแจ้งว่าผลิตกระยาสารทเสร็จแล้วขายได้แล้ว แต่เงินยังไม่ได้ เพราะมีออเดอร์เพิ่มขึ้นมาอีก ประกอบกับชาวบ้านที่บุรีรัมย์ผลิตไม่ทัน แต่หากขายได้แล้วจะได้เงินประมาณ 837,500 บาท จนกระทั่งเวลาผ่านไปปรากฏว่าเงินดังกล่าวก็ยังไม่เข้า
ขณะที่ฝ่ายน.ส.วารุณี ทำทีอ้างว่ามียอดสั่งมาอีก 5,000 กก. และต้องการเงินทุนเพิ่ม ทาง น.ส.นงนุช เห็นว่าน่าจะลงทุนผลิตเอง จึงระดมเงินลงทุนกับแม่และน้องสาว ทำกระยาสารทให้ทันต่อความต้องการ ปรากฏว่าทันในวันส่งมอบของ ฝ่าย น.ส.วารุณี กลับอ้างว่าไม่ว่าง พอโทรไปให้เคลียร์เงินที่ค้างกลับบ่ายเบี่ยงจนสุดท้ายปิดโทรศัพท์หนีไป ภายหลังจึงเข้าแจ้งความร่วมกับผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนลักษณะเดียวกันอีก 2 ราย ที่ต้องสูญเงินรวมกว่า 9 แสนบาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเป็นเงินเกือบ 2 ล้านบาท
ด้าน พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้ปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด เพราะ อาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกง เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานได้แล้ว ก็จะให้ทางพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกตัวมาเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ คู่กรณีเป็นคนเคยรู้จักกัน และเคยทำงานร่วมกันก็เลยเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ยอมจ่ายเงินตามที่ผู้ถูกแจ้งอ้างว่าจะเอาไปลงทุนกัน เท่าที่พูดคุยเบื้องต้น ก็อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกง ก็อยากจะฝากเตือนว่า ถ้ามีคนมาชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยเสนอผลกำไรล่อใจ ก็อยากให้ตรวจสอบต้นทางให้แน่ชัดก่อน ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน.
