ข่าวทำแผนฆ่าฝังดินสุดวุ่น ญาติแค้นตบ'น้องปลา'หัวคะมำ - kachon.com

ทำแผนฆ่าฝังดินสุดวุ่น ญาติแค้นตบ'น้องปลา'หัวคะมำ
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
จากกรณีตำรวจจับกุมแก๊งคนร่ายร่วมกันฆ่า นายชัยประสิทธิ์ บุญเลิศ หรือตั้ม อายุ 33 ปี ก่อนนำศพไปฝังไว้ในที่ดินรกร้าง หมู่ 3 ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยตัวการที่ก่อเหตุได้ถูกตำรวจวิสามัญไปแล้วคือ นายสมศักดิ์ เล็ดลอด หรือโอ รวมทั้งจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทางคดีทั้งหมดแล้ว 5 ราย ได้แก่ นายทินกร สุขเจริญ หรือ เก่ง อายุ  40 ปี, น.ส.แปทิพย์ โลกรัก หรือ ปลา อายุ 22 ปี, นายกิติพงษ์ จงเจริญพิศาล หรือป้า อายุ  24 ปี, นายวิศรุต หีบเงิน หรืออู อายุ 28 ปี และ นายถนอมศักดิ์ ดีสละ หรือต้อม อายุ 35 ปี ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุแห่งการตาย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 มี.ค. พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมนายตำรวจในสังกัด ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งคนร้ายอุ้มฆ่า นายชัยประสิทธิ์ พร้อมยานพาหนะของกลางในการก่อเหตุ ซึ่งจากการสอบสวน น.ส.แปทิพย์ รับว่าสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากความหึงหวงของ นายสมศักดิ์ จึงได้หลอกแชทข้อความทางเฟซบุ๊ก ให้ นายชัยประสิทธิ์ มาหาเพื่อทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ติดต่อให้ นายกิติพงษ์, นายถนอมศักดิ์ ,นายวิศรุต นำศพ และรถจยย.ไปใส่รถยนต์กระบะตู้ทึบไปทิ้งที่บริเวณซอยวัดบัวโรย ซึ่งต่อมามีคนมาพบจยย.ที่ทิ้งไว้ ทำให้นายสมศักดิ์ กลัวคนมาพบศพ จึงติดต่อ นายทินกร และ นายจักรกฤษณ์ นำศพจากซอยวัดบัวโรยไปฝังดินที่บริเวณ หมู่ที่ 3 ต.คลองบ้านโพธิ์  อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่ออำพรางคดี

จากนั้น ตำรวจคุมตัวทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายใน ซ.วัดบัวโรย ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง โดยจังหวะทำชี้จุดแล้วเสร็จ ปรากฏว่ามีญาติพี่น้องของ นายชัยประสิทธิ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี เดินเข้ามาใกล้ น.ส.แปทิพย์ จังหวะเจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวขึ้นรถกลับโรงพัก ญาติคนดังกล่าวได้ใช้ท่อนแขนฟาดเข้าใบหน้า น.ส.แปทิพย์ อย่างแรงทั้งที่กำลังสวมหมวกกันน็อคอยู่ ทำให้ น.ส.แปทิพย์ เซล้มคะมำไปทางขวา โชคยังดีที่มีรถตู้ขวางอยู่ทำให้ยันเอาไว้ได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปห้ามปรามและคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ ก่อนจะพาผู้ต้องหาทั้งหมดขึ้นรถกลับโรงพัก จึงปล่อยตัวชายที่ก่อเหตุไป.