ข่าว'ศรีวราห์'มั่นใจเอาผิด'เปรมชัย'ได้ ลุ้นตัดสินคดีฆ่าเสือดำ - kachon.com

'ศรีวราห์'มั่นใจเอาผิด'เปรมชัย'ได้ ลุ้นตัดสินคดีฆ่าเสือดำ
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้แถลงความคืบหน้าคดีเสือดำที่มี นายเปรมชัย กรรณสูตร ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกตกเป็นผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิ จะนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 มี.ค.นี้ แต่มีการเผยแพร่ทางโซเชี่ยลว่า อัยการสั่งไม่ฟ้องทำให้ นายเปรมชัย รอดคดีทุกข้อหา จนทำให้สังคมเกิดความสับสน จึงเชิญพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาชี้แจง ทั้งพนักงานสอบสวนภูธจจังหวัดกาญจนบุรี พนักงานสอบสวนจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พนักงานสอบสวนจากกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)  

โดยพนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สรุปคดีดังกล่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 4 ก.พ.61 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร  หลังจากพนักงานสอบสวนรับเรื่องใช้เวลา 35 วัน ทำสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา แจ้งข้อหาทั้ง 4 คน จำนวน 10 ข้อหา 1.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาติ 2.ร่วมกันนำเครื่องมือใช้ในการล่าสัตว์ป่าเข้าไปโดยโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองและพยายามล่าสัตว์ป่า 4.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง 5.ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือพาไปเสียซึ่งซากสัตว์ป่า 6.ร่วมกันเก็บหาของป่า 7.ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าไว้ในความครอบครอง 8.ร่วมกันมีอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต 9.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 10.ร่วมกันทารุณกรรมสัตว์ 



พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนสั่งฟ้อง 9 ข้อหา สั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหาคือ ทารุณกรรมสัตว์ และได้ส่งให้พนักงานอัยการ อัยการภาค 7 ตรวจสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องนายเปรมชัย 5 ข้อหาคือ ร่วมกันล่าวัตว์ป่า, ร่วมกันซ่อนเร้นฯ, ร่วมกันมีไว้ในครองซากสัตว์ป่า, ร่วมกันเก็บหาของป่า, ร่วมกันมีอาวุธปืน,และ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เรื่องทารุณกรรมสัตว์ เมื่อพนักงานอัยการมีความเห็นแย้งกันกับตำรวจ พนักงานสอบสวนจึงส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด เมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นฟ้องตามพนักงานอัยการภาค 7 พนักงานอัยการจึงยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตรวจพยานหลักฐานทั้งฝ่ายโจทย์จำเลยเสร็จสิ้น ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 19 มี.ค.นี้ ที่มีการปล่อยข่าวอัยการสั่งไม่ฟ้องไม่เป็นความจริง 

ด้าน พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ชี้แจงว่า นอกจากนี้ในคดีดังกล่าวยังมีคดีการติดสินบนเจ้าพนักงาน พนักงานสอบสวน บก.ปปป. รับเรื่องการติดสินบนจากนายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้ารักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2561 กล่าวโทษกับนายเปรมชัย กรรณศุตร และนายยง โดดเครือ ข้อหาร่วมกันให้ของให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจหรือประวิงการกระทำอันมิชอบ จากการตั้งคณะกรรมการพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลางมีความเห็นสั่งฟ้อง และได้ส่งให้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 เมื่อวันที่ 30 มี.ค.61 และทางอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องตามพนักงานสอบสวน กระบวนการไต่สวนทั้งหมดเสร็จสิ้นศาลนัดพิพากษาวันที่ 11 มิ.ย.62   



ขณะที่ พนักงานสอบสวน บก.ปทส. เผยว่า หลังจากจับกุมที่อุทยานมีการสืบสวนขยายผลพบงาช้างและอาวุธปืน เข้าตรวจค้นที่บ้านย่านห้วยขวางวันที่ 7 ก.พ.61 ยึดอาวุธปืน 43 กระบอก งาช้าง 4 กิ่ง จากการตรวจสอบอาวุธปืนพบ 5 กระบอก ไม่มีทะเบียนแจ้งข้อหานายเปรมชัย ฐานครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ในทางคดีพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเช่นเดียวกัน คดีอยู่ที่ศาลอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทย์ ส่วนงาช้างพบว่าเป็นงาช้างจากแอฟริกา จึงดำเนินคดีข้อหาลักลอบนำงาช้างจากต่างประเทศเข้ามาตาม พ.ร.บ.ศุลกากรและครอบครองสัตว์ป่าส่วนที่เป็นงาช้าง นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับภรรยานายเปรมชัย ข้อหาแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสาร ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ยื่นแจ้งเจ้าหน้าที่ครอบครองงาช้างที่ยืนยันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเช่นเดียวกัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล 

จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้กล่าวสรุปปิดท้ายว่า คดีล่าเสือดำมั่นใจในคดีจะสามารถเอาผิดนายเปรมชัยได้ เพราะความเห็นตรงกับพนักงานอัยการสูงสุด ขบวนการยุติธรรมเบื้องต้นตำรวจอัยการเห็นตรงกันแล้ว เหลือแต่ศาลจะพิจารณาตามความหนักเบา ผิดนะผิดแน่ อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชนที่เสพข่าวอย่าไปหลงเชื่อโซเชี่ยลที่บิดเบือนจากความจริง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งให้ตรวจสอบใครบิดเบือนข่าวให้นำมาดำเนินคดี ซึ่งเป็นความผิด พ.ร.บ.คอมฯ รวมทั้งการแชร์ข่าวด้วย นับตั้งแต่เริ่มมีข่าวมาช่วงหลังนี้ ถ้าลงเป็นเท็จดำเนินคดีหมด โดยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.ดำเนินการ เพราะการกระทำดังกล่าวทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย วันที่ 19 มี.ค.ศาลตัดสินจะทราบกันว่าเป็นอย่างไร.