'ศรีวราห์'มั่นใจเอาผิด'เปรมชัย'ได้ ลุ้นตัดสินคดีฆ่าเสือดำ
อาชญากรรม
โดยพนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สรุปคดีดังกล่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 4 ก.พ.61 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร หลังจากพนักงานสอบสวนรับเรื่องใช้เวลา 35 วัน ทำสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหา แจ้งข้อหาทั้ง 4 คน จำนวน 10 ข้อหา 1.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาติ 2.ร่วมกันนำเครื่องมือใช้ในการล่าสัตว์ป่าเข้าไปโดยโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองและพยายามล่าสัตว์ป่า 4.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง 5.ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือพาไปเสียซึ่งซากสัตว์ป่า 6.ร่วมกันเก็บหาของป่า 7.ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าไว้ในความครอบครอง 8.ร่วมกันมีอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต 9.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 10.ร่วมกันทารุณกรรมสัตว์
พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนสั่งฟ้อง 9 ข้อหา สั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหาคือ ทารุณกรรมสัตว์ และได้ส่งให้พนักงานอัยการ อัยการภาค 7 ตรวจสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องนายเปรมชัย 5 ข้อหาคือ ร่วมกันล่าวัตว์ป่า, ร่วมกันซ่อนเร้นฯ, ร่วมกันมีไว้ในครองซากสัตว์ป่า, ร่วมกันเก็บหาของป่า, ร่วมกันมีอาวุธปืน,และ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เรื่องทารุณกรรมสัตว์ เมื่อพนักงานอัยการมีความเห็นแย้งกันกับตำรวจ พนักงานสอบสวนจึงส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด เมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นฟ้องตามพนักงานอัยการภาค 7 พนักงานอัยการจึงยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตรวจพยานหลักฐานทั้งฝ่ายโจทย์จำเลยเสร็จสิ้น ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 19 มี.ค.นี้ ที่มีการปล่อยข่าวอัยการสั่งไม่ฟ้องไม่เป็นความจริง
ด้าน พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ชี้แจงว่า นอกจากนี้ในคดีดังกล่าวยังมีคดีการติดสินบนเจ้าพนักงาน พนักงานสอบสวน บก.ปปป. รับเรื่องการติดสินบนจากนายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้ารักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2561 กล่าวโทษกับนายเปรมชัย กรรณศุตร และนายยง โดดเครือ ข้อหาร่วมกันให้ของให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจหรือประวิงการกระทำอันมิชอบ จากการตั้งคณะกรรมการพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการสอบสวนกลางมีความเห็นสั่งฟ้อง และได้ส่งให้พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 เมื่อวันที่ 30 มี.ค.61 และทางอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องตามพนักงานสอบสวน กระบวนการไต่สวนทั้งหมดเสร็จสิ้นศาลนัดพิพากษาวันที่ 11 มิ.ย.62
ขณะที่ พนักงานสอบสวน บก.ปทส. เผยว่า หลังจากจับกุมที่อุทยานมีการสืบสวนขยายผลพบงาช้างและอาวุธปืน เข้าตรวจค้นที่บ้านย่านห้วยขวางวันที่ 7 ก.พ.61 ยึดอาวุธปืน 43 กระบอก งาช้าง 4 กิ่ง จากการตรวจสอบอาวุธปืนพบ 5 กระบอก ไม่มีทะเบียนแจ้งข้อหานายเปรมชัย ฐานครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ในทางคดีพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเช่นเดียวกัน คดีอยู่ที่ศาลอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทย์ ส่วนงาช้างพบว่าเป็นงาช้างจากแอฟริกา จึงดำเนินคดีข้อหาลักลอบนำงาช้างจากต่างประเทศเข้ามาตาม พ.ร.บ.ศุลกากรและครอบครองสัตว์ป่าส่วนที่เป็นงาช้าง นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับภรรยานายเปรมชัย ข้อหาแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสาร ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ยื่นแจ้งเจ้าหน้าที่ครอบครองงาช้างที่ยืนยันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง และพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเช่นเดียวกัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้กล่าวสรุปปิดท้ายว่า คดีล่าเสือดำมั่นใจในคดีจะสามารถเอาผิดนายเปรมชัยได้ เพราะความเห็นตรงกับพนักงานอัยการสูงสุด ขบวนการยุติธรรมเบื้องต้นตำรวจอัยการเห็นตรงกันแล้ว เหลือแต่ศาลจะพิจารณาตามความหนักเบา ผิดนะผิดแน่ อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชนที่เสพข่าวอย่าไปหลงเชื่อโซเชี่ยลที่บิดเบือนจากความจริง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งให้ตรวจสอบใครบิดเบือนข่าวให้นำมาดำเนินคดี ซึ่งเป็นความผิด พ.ร.บ.คอมฯ รวมทั้งการแชร์ข่าวด้วย นับตั้งแต่เริ่มมีข่าวมาช่วงหลังนี้ ถ้าลงเป็นเท็จดำเนินคดีหมด โดยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท.ดำเนินการ เพราะการกระทำดังกล่าวทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย วันที่ 19 มี.ค.ศาลตัดสินจะทราบกันว่าเป็นอย่างไร.