ข่าวย้อนไทม์ไลน์ฉบับเต็ม คดี'เปรมชัย'ล่า'เสือดำ'ทุ่งใหญ่ฯ! - kachon.com

ย้อนไทม์ไลน์ฉบับเต็ม คดี'เปรมชัย'ล่า'เสือดำ'ทุ่งใหญ่ฯ!
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เป็นอีกหนึ่งคดีที่คนไทยทั้งประเทศจับตามอง สำหรับศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดพิพากษาคดีที่อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก หลังบุกรุกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี โดยพบอาวุธปืนและซากสัตว์ ที่หนึ่งในนั้นคือ "ซากเสือดำ" จนนำมาสู่การพิพากษาที่หลายคนรอยคอยในวันที่ 19 มี.ค. 

หากย้อนไปยังจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ "4 ก.พ. 2561" เจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้าม จึงได้เข้าตรวจสอบ พบว่า นักท่องเที่ยวหนึ่งในกลุ่มนี้ คือ "นายเปรมชัย กรรณสูต" ประธานบริหารบริษัทอิตาเลี่ยนไทยฯ โดยบริเวณเต็นท์ที่พัก พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง จึงได้ทำการขยายพื้นที่ตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอก และ ปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกมาก ใกล้กับที่พบอาวุธปืนที่ซ่อนอยู่ นอกจากนี้ยังพบ "ซากเสือดำ" ถูกชำแหละ ถลกหนัง จึงทำการจับกุมทั้ง 4 ราย เพื่อส่งคดีไปที่ สภ.ทองผาภูมิ
-ชะตากรรม'เสือดำ'อันตราย สัตว์เสี่ยงสูญพันธ์ุของโลก!



"6 ก.พ.2561" เจ้าหน้าที่ลงบันทึกจับกุม นายเปรมชัย กับพวก รวม 4 คน 9 ฐานความผิด จาก 3 พ.ร.บ. และยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก แต่ทนายความยื่นขอประกันตัว 4 ผู้ต้องหา วงเงินคนละ 150,000 บาท

"3 มี.ค. 2561" พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนคดีล่าสัตว์ป่าส่งมอบให้อัยการ เห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาใน 9 ข้อหา นอกจากนี้ ทางอัยการภาค 7 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาคดี เพื่อให้สำนวนการสอบสวนรัดกุมที่สุดและเร่งรัดการทำสำนวนการสอบสวนทุก 7 วัน 

"26 มี.ค. 2561" ผู้ต้องหายื่นร้องขอความเป็นธรรม(ครั้งที่1) กับอธิบดีอัยการภาค 7 ขอให้สอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

"27 เม.ย. 2561" นายเปรมชัยยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่ออธิบดีอัยการภาค 7 ขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ทางคณะทำงานและอธิบดีอัยการภาค 7 เห็นว่าพยานที่อ้างถึงมิใช่พยานที่เกี่ยวข้องในคดี เป็นเพียงผู้ที่แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อเท่านั้น ส่วนพยานที่เกี่ยวข้องตามประเด็นที่ยื่นร้องขอความเป็นธรรม ก็ได้มีการสอบสวนพยานดังกล่าวไว้แล้ว คำร้องขอความเป็นธรรมของ "นายเปรมชัย" จึงเป็นลักษณะการประวิงคดี ทั้งข้อเท็จจริงตามสำนวนการสอบสวนได้ความครบถ้วนแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมตามที่ร้องขอ
-"อัยการ"สูงสุดยืนยันสั่งฟ้อง "เปรมชัย-พวก"6ข้อหา



"2 พ.ค. 2561" ครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 7 จำเลยมารายงานตัวต่อศาล ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้ฟัง "จำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา" และขอยื่นประกันตัว โดยศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว

"21 พ.ค. 2561" ศาลนัดพร้อม เพื่อตรวจพยานหลักฐาน แต่ทนายความจำเลยที่ 2และ4 ไม่ได้เดินทางมาด้วย พร้อมขอเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปเป็นวันที่ 6 มิ.ย.
-"เปรมชัย-พวก"ขึ้นศาลทองผาภูมิ รับวันนัดสืบพยาน(คลิป)



"6 มิ.ย. 2561" ทนายความของนายเปรมชัยยื่นคำร้องขอย้ายศาล ซึ่งทนายความจำเลยที่ 1(นายเปรมชัย) และ2 ยื่นคำร้อง อ้างว่าจำเลยที่ 1 และ 2 ถูกฟ้องในคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่ จึงขอให้ศาลจังหวัดทองผาภูมิส่งคดีไปให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีดังกล่าวอยู่ในเขตอำนาจศาลใด โดยภายหลังศาลจังหวัดทองผาภูมิได้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐาน และนัดฟังคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์เป็นวันที่ 27 ส.ค. 2561

"27 ส.ค. 2561"  ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีอยู่ในอำนาจศาลจังหวัดทองผาภูมิ ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดสืบพยานโจทก์ปากแรก 27 พ.ย. 2561

"27 พ.ย. 2561" เริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรกและนัดสืบพยานโจทก์ต่อเนื่อง ในวันที่ 28, 29, 30 พ.ย.2561 และ 6, 7, 11, 12, 13, 18 ธ.ค. 2561 รวมสืบพยานโจทก์ 10 นัด 24 ปาก
-สืบเสร็จแล้ว'หน.วิเชียร'พยานโจทก์ ยันทำดีสุดเพื่อเสือดำ



"19 ธ.ค. 2561" เริ่มสืบพยานจำเลยนัดแรก และนัดสืบพยานจำเลยต่อเนื่องในวันที่ 20, 26 ธ.ค. 2561 รวมสืบพยานจำเลย 3 นัด 3 ปาก โดยที่นัดสุดท้ายคือวันที่ 26 ธ.ค. จำเลยที่ 4 ไม่สามารถขึ้นเบิกความได้

"26 ธ.ค. 2561"  สืบพยานจำเลยปากสุดท้าย ศาลนัดอัยการโจทก์ จำเลยยื่นแถลงการณ์ปิดคดีภายในวันที่ 25 ม.ค. 2562 และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 มี.ค. 2562

ทั้งนี้ ในคดีดังกล่าวนั้นมี จำเลยที่คือ 1 นายเปรมชัย กรรณสูต ,จำเลยที่2 นายยงค์ โดดเครือ ,จำเลยที่3 นางนที เรียมแสน และจำเลยที่4 นายธานี ทุมมาศโดยใช้เวลาไต่สวนจนศาลชั้นต้นพิพากษา ราว 13 เดือนเศษ ในทั้งหมด 5 ข้อหา คือ
1. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
2. ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
3. ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
4. ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
5. ฐานรวมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507



"ศาลมีคำพิพากษา" ว่า ให้ลงโทษ นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ในข้อหา ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน ไม่รอลงอาญา รวมจำคุก นายเปรมชัย 16 เดือน โดยศาลยกฟ้องข้อหา ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าไว้ในความคุ้มครอง (เสือดำ)

นอกจากนี้ศาลยังสั่งให้จำเลยที่ 1 และที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย จำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.61 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง ถือเป็นอีกหนึ่งคดีที่คนไทยทั้งประเทศต่างจับตารอยคอย วันที่ 19 มี.ค. 2562 วันที่ศาลจะชี้ชะตาของ "นายเปรมชัย กรรณสูต"...
-คุก'เปรมชัย'16เดือนไม่รอลงอาญา ปรับ2ล.คดีล่า'เสือดำ'