รวบ9กก.ฌาปนกิจสงเคราะห์ โกงค่าทำศพ320ล้าน
อาชญากรรม
สืบเนื่องจากกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกว่า 3,300 ราย ว่าถูกหลอกลวงให้สมัครสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์แต่ไม่ได้รับเงินค่าสงเคราะห์ศพ ได้รับความเสียหายรวมกว่า 320 ล้านบาท เหตุเกิดที่พื้นที่รับผิดชอบ สภ.สตึก ภ.จว.บุรีรัมย์ และได้มีการแจ้งความไว้หลายพื้นที่ แต่ปรากฎว่าคดีไม่มีความคืบหน้า
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปฉช.ตร.) ,พล.ต.ต พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม.ปูพรมตรวจค้น 15 จุด ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และจ.บุรีรัมย์ ตามยุทธการขุดรากถอนโคนอาชญากรรม นำหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์เข้าจับกุม 1.นายเหลา ชื่นรัมย์ อายุ 71 ปี , 2.นายปิด ใหญ่รัมย์ อายุ 67 ปี ,3.นายบุญมี บุตรสีตะราช อายุ 69 ปี, 4.นายกี่ ศิริสุข อายุ 73 ปี ,5.นายอุดม พวงธรรม อายุ 62 ปี,6.น.ส.ช่อผกา กุสิรัมย์ อายุ 42 ปี ,7.นายเกษม ไพเราะ อายุ 67 ปี ,8.น.ส.จิรนุช เสนาบุญ อายุ 36 ปี และ9นายอุทัย ยีรัมย์ อายุ 46 ปี
ทั้งหมดเป็นกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึกในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันยักยอกทรัพย์,ร่วมกันดำเนินกิจการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือขึ้นทะเบียนฌาปนกิจสงเคราะห์ ,ร่วมกันดำเนินการการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยฝ่าฝืนกฎหมาย " พร้อมยึดอายัดทรัพย์สิน ประกอบไปด้วย บ้านพร้อมที่ดิน 10 หลัง ,รถยนต์ 7 คัน ,รถจักรยานยนต์ 2 คัน, อาวุธปืน 2 กระบอก และเงินสด 4แสนบาท รวมมูลค่า 35.6 ล้านบาท
สืบสวนทราบว่าเมื่อปี 2542 นายเหลา ชื่นรัมย์ กับพวกรวม 9 นาย จัดตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก สาขา1 ขึ้นโดยออกอุบายเชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอสตึกและอำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ มาสมัครสมาชิก อ้างผลตอบแทนจากกรณีสมาชิกเสียชีวิต ทางทายาทหรือผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินค่าสงเคราะห์ศพจากสมาคมฌาปนกิจฯ รายละ 150,000 บาท
ต่อมาสมาคมได้เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกพื้นที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกได้ แต่จะต้องจ่ายเงินเป็นค่าธรรมเนียมการรับสมาชิกนอกเขตรายละ 1,000 บาท ค่าสงเคราะห์ศพแรกเข้าล่วงหน้า 4,000 บาท และค่าอายุสมาชิกที่เกินกว่า 65 ปี ต้องจ่ายเพิ่มอีกปีละ 500 บาท ทำให้มีประชาชนให้ความสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเป็นอย่างมาก จนมีการขยายสาขา และมียอดสมาชิกกว่า 1 หมื่นราย
ต่อมาปี 2559 มีสมาชิกเสียชีวิตลงประมาณ 100 กว่าราย ทายาทหรือผู้รับผลประโยชน์ ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอเงินค่าสงเคราะห์ศพจากสมาคมฯ แต่สมาคมฯไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้ โดยอ้างว่าขาดสภาพคล่องทางการเงิน แต่เมื่อผู้ตรวจสอบบัญชีได้ตรวจสอบการเงินของสมาคมตั้งแต่ปี 2552 ถึงปี 2560 พบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการเบิกจ่ายเงินออกไปจากบัญชีของสมาคมฯ อย่างผิดปกติ ใช้จ่ายเป็นค่าครุภัณฑ์ เงินยืมทดรองให้กรรมการ จ่ายให้ผู้เสียชีวิตโดยไม่มีหลักฐานเอกสารการจ่ายเงินและผู้รับเงินสงเคราะห์ศพจนหมด จึงไม่สามารถจ่ายค่าสงเคราะห์ศพให้กับสมาชิกได้ ทำให้สมาชิกได้รับความเสียหาย
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนจ.บุรีรัมย์นั้นเป็นเรื่องของการฉ้อโกงประชาชน ออกอุบายให้มาสมัครสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ เมื่อถึงเวลาที่สมาชิกเสียชีวิตทางทายาทไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ ซึ่งการกระทำลักษณะนี้เข้าข่ายความผิดในลักษณะร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ทั้งยังพบว่ามีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปยังกลุ่มเครือข่ายกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ อย่างไรก็ตามความเดือดร้อนของประชาชนในทุกวันนี้ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องการถูกฉ้อโกงอันมาจากการที่ถูกชักชวนหลอกลงทุน และการตกเป็นหนี้นอกระบบ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงสั่งการใ้หลงมาช่วยเหลือโดยด่วน.