อดีต'หนุ่มแบงก์'ซื้อข้อมูลสวมรอยสั่งของออนไลน์สูญ8ล.
อาชญากรรม
Webmaster
2019-03-29 12:21:00
21
Webmaster
2019-03-29 12:21:00
21
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. แถลงผลการจับกุม นายสกล วิชยางกูล อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 478/2562 ลงวันที่ 26 มี.ค.62 ข้อหา ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง ซิมการ์ดเครือข่ายต่างๆ รวม 36 หมายเลข โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง และไอซ์ 10 กรัม โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณคอนโดมิเนียม ซิลค์เพลส ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก นายสกล ผู้ต้องหา เป็นอดีตพนักงานธนาคารหลายแห่ง ได้ซื้อข้อมูลบัตรเครดิตผู้เสียหาย จากแฮกเกอร์เว็บไซต์ต่างประเทศ ในราคา 15 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อข้อมูลบัตรเครดิตผู้เสียหาย 1 ราย โดยสั่งจ่ายผ่านสกุลเงินดิจิตอลหรือบิตคอยน์ จากนั้นก็จะนำข้อมูลบัตรเครดิตผู้เสียหายที่ซื้อมาไปใช้สวมรอยเป็นลูกค้าธนาคารต่างๆ ก่อนสั่งซื้อของออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งสินค้าที่สั่งซื้อส่วนใหญ่จะเป็นโทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก เนื่องจากสินค้าเหล่านี้สามารถนำไปขายต่อได้ง่าย ที่ผ่านมาพบว่าก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ จึงร่วมกับกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ ปอท. ร่วมกันสืบสวนสอบสวนพร้อมกับรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลออกหมายจับ ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้กำลังใช้ข้อมูลบัตรเครดิตของผู้เสียหายสั่งซื้อของและให้มาส่งที่คอนโดมิเนียม ซิลค์เพลส จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบตัวผู้ต้องหาจึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุม ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลางจำนวนมากดังกล่าวจึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายสกล ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ได้นำความรู้เกี่ยวกับบัตรเครดิตและขั้นตอนการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ จากการที่เคยเป็นอดีตพนักงานธนาคารมาใช้ในการก่อเหตุ เนื่องจากต้องการนำเงินมาใช้เที่ยวเตร่ปรนเปรอหญิงสาวและซื้อยาเสพติดมาเสพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลรายชื่อผู้เสียหาย 100 ราย ที่ถูกผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุพบว่า 1 ในนั้นมีดาราชื่อดัง ซึ่งเป็นนักแสดงนำในละครซีรีย์ชื่อดังอย่าง ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น รวมทั้งแพทย์และนักธุรกิจอื่นๆ อีกหลายคนตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้อีกด้วย
สืบเนื่องจาก นายสกล ผู้ต้องหา เป็นอดีตพนักงานธนาคารหลายแห่ง ได้ซื้อข้อมูลบัตรเครดิตผู้เสียหาย จากแฮกเกอร์เว็บไซต์ต่างประเทศ ในราคา 15 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อข้อมูลบัตรเครดิตผู้เสียหาย 1 ราย โดยสั่งจ่ายผ่านสกุลเงินดิจิตอลหรือบิตคอยน์ จากนั้นก็จะนำข้อมูลบัตรเครดิตผู้เสียหายที่ซื้อมาไปใช้สวมรอยเป็นลูกค้าธนาคารต่างๆ ก่อนสั่งซื้อของออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งสินค้าที่สั่งซื้อส่วนใหญ่จะเป็นโทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก เนื่องจากสินค้าเหล่านี้สามารถนำไปขายต่อได้ง่าย ที่ผ่านมาพบว่าก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ จึงร่วมกับกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ ปอท. ร่วมกันสืบสวนสอบสวนพร้อมกับรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลออกหมายจับ ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้กำลังใช้ข้อมูลบัตรเครดิตของผู้เสียหายสั่งซื้อของและให้มาส่งที่คอนโดมิเนียม ซิลค์เพลส จึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบตัวผู้ต้องหาจึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุม ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลางจำนวนมากดังกล่าวจึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายสกล ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ ได้นำความรู้เกี่ยวกับบัตรเครดิตและขั้นตอนการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ จากการที่เคยเป็นอดีตพนักงานธนาคารมาใช้ในการก่อเหตุ เนื่องจากต้องการนำเงินมาใช้เที่ยวเตร่ปรนเปรอหญิงสาวและซื้อยาเสพติดมาเสพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลรายชื่อผู้เสียหาย 100 ราย ที่ถูกผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุพบว่า 1 ในนั้นมีดาราชื่อดัง ซึ่งเป็นนักแสดงนำในละครซีรีย์ชื่อดังอย่าง ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น รวมทั้งแพทย์และนักธุรกิจอื่นๆ อีกหลายคนตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้อีกด้วย
