ข่าวตัดสิน'ประหารชีวิต'ยกแก๊ง ลอบนำรถพยาบาลขนยานรก - kachon.com

ตัดสิน'ประหารชีวิต'ยกแก๊ง ลอบนำรถพยาบาลขนยานรก
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ศาลจังหวัดพะเยา นายพินิจ บุญประเสริฐ รองผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพะเยา ออกนั่งบัลลังก์ที่ 1 พิจารณาคดี นายตะวัน หรือดุ่ย โพธิ์อุไร กับพวกรวม 7 คนในคดียาเสพติด โดยตำรวจได้ร่วมกันคุ้มกันนำตัวผู้ต้องหาประกอบด้วย นายตะวัน หรือดุ่ย จำเลยที่ 1, นายศุภชัย ขาวจันทร์ จำเลยที่ 2, นายชาญชัย เพชรพราว จำเลยที่ 3, นายวิสันต์ น้ำเต้าทอง จำเลยที่ 4, น.ส.สุธิมา ชัยกูล จำเลยที่ 5, นายกำพล ชัยหัง จำเลยที่ 6 และนายเค็ก พรรณทวี จำเลยที่ 7 เดินทางมาขึ้นศาล พร้อมญาติและทนายความมาร่วมฟังการพิจารณา

ทั้งนี้ นายพินิจ ได้อ่านคำพิพากษาสรุปว่า การกระทำของจำเลยทั้งเจ็ดเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 91 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยทั้งเจ็ดเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีเมทเอมเฟตามีนไว้ในครอบคองเพื่อจำหน่ายแต่เพียงบทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ให้ประหารชีวิต



ส่วนจำเลยที่ 4 ให้การรับสารภาพ หลังจากสืบพยานโจทก์แล้วเสร็จก็ตาม แต่เป็นเพราะจำนนต่อหลักฐานประกอบกับจำเลยทั้งเจ็ดกระทำความผิดในลักษณะร่วมเป็นขบวนการโดยใช้รถยนต์กู้ชีพฉุกเฉินที่มีไว้สำหรับนำส่งผู้ป่วยมาลำเลียงยาเสพติด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าพนักงานอันเป็นการกระทำที่อุกอาจปราศจากความยำเกรงต่อกฎหมาย อีกทั้งจำเลยทั้งเจ็ดยังร่วมกันมีเมทเอมเฟตามีนคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ถึง 394,243.165 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากและเป็นต้นเหตุให้ยาเสพติดให้โทษชนิดดังกล่าวแพร่ระบาดสู่ประชาชน ทำให้ตกเป็นทาสยาเสพติดให้โทษเพิ่มมากขึ้น อันเป็นการทำลายทรัพยากรมนุษย์และบั่นทอนความสงบสุขของสังคมโดยส่วนรวม พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งเจ็ดถือว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมและประเทศชาติ จึงเห็นสมควรลงโทษสถานหนัก โดยไม่ลดโทษให้ คงให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งเจ็ดสถานเดียว



สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 61 เวลาประมาณ 19.00 น. ตำรวจปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ร่วมกับตำรวจพะเยา เข้าสกัดรถตู้ดัดแปลงเป็นรถพยาบาล 1669 ขนยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือเพื่อนำส่งที่ส่วนกลาง โดยสกัดได้ที่ด่านตรวจรถแม่ต๋ำ ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา 1 คัน ซึ่งเป็นรถกรุยทาง ส่วนคันที่ตามมาทีหลัง คนขับได้ไหวตัวขับหลบหนีไปทาง อ.ดอกคำใต้ ระหว่างทางได้โยนยาไอช์ซึ่งเป็นห่อคล้ายใบชาจีนลงข้างทาง ก่อนไปจนมุมที่บริเวณบ้านสันช้างหิน อ.ดอกคำใต้ เนื่องจากถูกยิงยางล้อหลังแตกทั้งสองข้าง รถเสียหลักชนรั้วบ้านของประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายไว้ได้พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก ก่อนนำตัวไปสอบที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งรถพยาบาลทั้งสองคันได้สวมทะเบียนปลอมเพื่อหลอกเจ้าหน้าที่และเป็นรถกู้ชีพฉุกเฉินสังกัดกู้ชีพกู้ภัย อบต.แห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งนอกรถตู้ฉุกเฉินที่ถูกจับแล้ว เจ้าหน้าที่ยังจับรถยนต์อีก 1 คันพร้อมผู้ต้องหา 2 คน ที่ร่วมกันเป็นขบวนการได้ที่ สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย.