ข่าว'บิ๊กโจ๊ก'รวบเสี่ยกาแฟเคชแบ็คลวงลงทุนสูญ3 พันล้าน - kachon.com

'บิ๊กโจ๊ก'รวบเสี่ยกาแฟเคชแบ็คลวงลงทุนสูญ3 พันล้าน
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อกลางดึกวันที่ 31 มี.ค. ที่ศูนย์ปฎิบัติการ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล  ผบช.ตม. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนายการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายกิตติกร หรือกร  วรรณวสุธรอายุ 61 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยจับกุมผู้ร่วมกระบวนการได้จำนวน 8 คน โดยจับกุมได้ในขณะที่หลบหนีไปกบดานในประเทศเวียดนาม สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ปอท. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ เครือข่ายแชร์ลูกโซ่บริษัท กาแฟ แคชแบ็ค จำกัด ได้เปิดบริษัทขึ้นมาเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนมาร่วมลงทุนโดยการชักชวนสมัครสมาชิกทางเวปไซต์ โดยเสนอผลตอบแทน มากถึง 105 % ต่อเดือน ซึ่งมีการจัดแถลงข่าวเปิดตัวบริษัทต่อสื่อมวลชนหลายแขนง โดยอ้างหน่วยงานราชการ ทั้งกระทรวงพาณิชย์ / ปปง. / ดีเอสไอ และกรมสรรพากร เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ มีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อร่วมลงทุนด้วยหลายพันราย และร่วมสมัครสมาชิกกว่า 86,000 บัญชี มูลค่าความเสียหายกว่า  3 พันล้านบาท แต่หลังจากเปิดบริษัทได้เพียง 2 เดือน ก็ได้ปิดบริษัทหอบทรัพย์สินหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้วกว่า 1 พันราย  
 


ต่อมาทางปอท. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมกระบวนการได้แล้วจำนวน 8 ราย เหลือเพียงนายกิตติกร และน.ส.สิรวัญพร ไชยวัชรคุปต์ อายุ 53 ปี สองตัวการใหญ่ที่หลบหนีไปกบดานในประเทศเวียดนาม เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ ก่อนที่จะประสานความร่วมมือไปยังตำรวจเวียดนาม ออกไล่ล่าติดตามจับกุมตัวนายกิตติกร เอาไว้ได้ ส่วน น.ส.สิรวัญพร ได้ไหวตัวทันหลบหนีไปได้ จากนั้นได้ส่งตัวนายกิตติกร กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางไปรับตัวนายกิตติกร ผู้ต้องหารายนี้ด้วยตัวเอง ก่อนไปควบคุมที่ปอท. เพื่อสอบสวนขยายผล   ทั้งนี้มีผู้เสียหายกว่า 30 รายที่ทราบข่าวว่าจับกุมตัวนายกิตติกร ได้เดินทางมารอดูหน้าและชี้ยืนยันตัวตนนายกิตติกร ว่าเป็นตัวการใหญ่ในการฉ้อโกงในครั้งนี้พร้อมทั้งนำช่อดอกมามอบขอบคุณให้แก่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้และทีมงาน ที่สามารถจับกุมตัวนายกิตติกรได้.
 


ด้านน.ส.มยุรี  วงศ์คำจันทร์ อายุ 33 ปี ได้เล่าว่า ตนถูกหลอกไปเกือบ 4 แสนบาทโดยอ้างว่าจะได้รับเงินปันผลในอัตราที่สูง และชักชวนให้ร่วมลงทุน เขาบอกว่าอยากให้ลืมตาอ้าปากได้จะได้หมดหนี้หมดสิน คนที่มาชวนเป็นคนที่รู้จักกันซึ่งเป็นคนที่เขาร่วมลงทุนไปแล้วได้ปันผลจริงจึงมาชักชวนเราก็ไปดูที่บริษัทเราก็เห็นว่ามีการเปิดตัวมีสื่อหลายช่องมาทำข่าวภาครัฐอยู่ด้วย ทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นจึงร่วมลงทุนด้วย ยอมรับว่าตอนนี้อยากได้เงินคืนเครียดมากเพราะเอาเงินค่าเทมอลูกและค่าใช้จ่ายในบ้านไปร่วมลงทุนจนหมด