ข่าวสั่งไล่ออก'รอง สว.'คดีดัง ให้ผู้ต้องหากิมจิดื่มเหล้าโรงพัก - kachon.com

สั่งไล่ออก'รอง สว.'คดีดัง ให้ผู้ต้องหากิมจิดื่มเหล้าโรงพัก
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)  พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รอง ผบช.น. ในฐานะประธานการประชุม ร่วมกับ พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.ลุมพินี และพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อคลี่คลายกรณีนายกอน อิล ฮวาง อายุ 28 ปี นักธุรกิจเกี่ยวกับหุ้นชาวเกาหลี ซึ่งถูกจับกุมคดีอนาจารเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้วเสียชีวิตขณะถูกควบคุมตัวในห้องขัง สน.ลุมพินี  โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทย และตัวแทนญาติผู้เสียชีวิต ร่วมรับฟังรายงานความคืบหน้าคดีด้วย

พล.ต.ต.ชัยพร เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ถูกนำตัวมา สน.ลุมพินี ในเวลา 14.00 น. ระหว่างถูกควบคุมตัวเกิดอาการเครียด หงุดหงิด นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเหมือนจะฆ่าตัวตาย และขอล่าม ทางเจ้าหน้าที่จึงเชิญล่ามอาสาสมัครมา โดยล่ามได้แจ้งว่าชายชาวเกาหลีรายนี้ไม่อยากรับประทานข้าว อยากดื่มสุรา ด้วยความหวังดี ร้อยเวรซึ่งเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ. ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) จึงนำสุรามาให้ผู้ต้องหารายนี้ดื่มภายในห้องพนักงานสอบสวน โดยร้อยเวรและล่ามได้นั่งอยู่ด้วยในช่วงเวลาเที่ยงคืนจนถึงเวลา 04.00 น. จากนั้นผู้ต้องหากลับเข้าห้องขังโดยไม่ได้นอนหลับ กระทั่งตอนเช้ามีคนมาพบผู้ต้องหาคนดังกล่าวหมดสติ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในที่สุด ทั้งนี้การที่ร้อยเวรให้ผู้ต้องหานั่งดื่มสุราบนโรงพัก ถือว่าเป็นข้อบกพร่องอย่างมาก อีกทั้งเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดในโรงพักปรากฏภาพว่ามีการนั่งดื่มสุรากันจริง ทางคณะกรรมการสอบสวนจึงได้ไล่ร้อยเวรคนนี้ออกจากราชการแล้ว แม้จะทำไปเพื่อให้ผู้ต้องหาผ่อนคลายแต่เป็นทางออกที่ไม่ถูกต้อง

พล.ต.ต.ชัยพร เปิดเผยอีกว่า ในเบื้องต้นแพทย์ได้ชันสูตรพบว่า สาเหตุการเสียชีวิตของผู้ต้องหารายนี้ เกิดจากหัวใจล้มเหลว และมีหลอดเลือดเส้นหนึ่งตีบ 60% แต่ญาติแจ้งว่าผู้ตายไม่มีโรค เมื่อแพทย์ได้ตรวจละเอียดพบว่าในกระเพาะอาหารและในกระแสเลือดมีสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนอยู่ด้วย ซึ่งการพบสารเสพติดในกระเพาะอาหาร คงต้องรับประทานเข้าไป ถ้าเป็นฉีดจะเข้ากระแสเลือดด้วย ส่วนการสูบจะมีอยู่ที่ปอด ทางญาติจึงมีข้อสงสัยว่า ยาเสพติดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตด้วยหรือไม่ ใครเป็นผู้มอบยาเสพติดให้ผู้ตาย และยาเสพติดเข้าไปอยู่ในตัวผู้ตายได้อย่างไร โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องไปสอบถามแพทย์เพิ่มเติม และจะชี้แจงกับสถานทูตฯ รวมถึง ญาติผู้ตายให้ทราบ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างยุติธรรมให้มากที่สุด

สำหรับนายตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการเคยทำคดีอุ้มบุญที่โด่งดังมากเมื่อปี 57.