ตุ๊กตาทองทุกคน! แสดงละครตุ๋นเศรษฐีนีกว่า232ล้าน
อาชญากรรม
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป. พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.5 บก.ป. ร่วมแถลงจับกุม น.ส.สุภิช นิมิตนิวัช อายุ 61 ปี น.ส.ผาณิตา นารถไพรินทร์ อายุ 52 ปี นายชัยชนะ จันทรา อายุ 45 ปี และน.ส.มาริษา โสมบ้านกรวย อายุ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.103-106/2562 ลงวันที่ 21 มี.ค. 62 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น" หลังจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาที่ จ.ราชบุรี นนทบุรี และสุพรรณบุรี ตามลำดับ
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 59 ภายหลังจาก น.ส.สุภิช หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาทราบว่า น.ส.ปาณิสรา ธนสมานโชค อายุ 59 ปี อาชีพทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้เสียหาย เพิ่งจะได้เงินจากการขายที่ดินย่านนนทบุรี แนวการก่อสร้างรถไฟสายสีม่วงมาหลายร้อยล้านบาท จึงวางแผนกับพวกร่วมกันกุเรื่องว่า น.ส.ผาณิตา หนึ่งในผู้ต้องหาว่ากำลังจะได้มรดกจำนวน 1,000 ล้านบาท จากแพทย์หญิงรายหนึ่งที่เสียชีวิตเหตุถูกระเบิดจากเหตุการณ์ไม่สงบใน จ.ยะลา และมรดกจำนวนทั้งหมดมี น.ส.ผาณิตา เป็นผู้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว แต่ น.ส.ผาณิตา ไม่มีเงินค่าดำเนินการ 235 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้เริ่มเล่นละคร โดยให้ น.ส.สุภิช ไปติดต่อขอยืมเงินจากผู้เสียหาย 50 ล้าน ให้แก่ น.ส.ผาณิตา เพื่อเป็นค่าดำเนินการ แต่ยังขาดอีกจำนวนมาก จึงจะมาชักชวนให้ผู้เสียหายมาร่วมหาเงินไปให้ น.ส.ผาณิตา ยืมให้ครบตามจำนวน ซึ่งเมื่อได้เงินมรดกมาแล้วก็จะให้เงินค่าตอบแทนในการยืมเงินครั้งนี้เป็นเงิน 300 ล้านบาท ไม่รวมกับเงินที่ยืมมา ระหว่างนี้ก็มีการพูดคุยเจรจาหว่านล้อมกันเป็นระยะ
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวอีกว่า น.ส.ปาณิสรา ผู้เสียหายเริ่มหลงเชื่อ และให้เงินกับกลุ่มผู้ต้องหาไปครั้งแรก 5.2 แสนบาท และครั้งที่สอง 5.2 แสนบาท โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ตีเช็คเงินสดมาให้ผู้เสียหายไว้เพื่อเป็นหลักประกัน แต่แล้วกลุ่มผู้ต้องหาก็บอกกับผู้เสียหายว่าอย่าเพิ่งนำเช็คดังกล่าวไปขึ้น ในช่วงนี้ผู้เสียหายก็เริ่มระแวงว่าอาจถูกหลอก จึงได้ติดต่อสอบถามไปยัง น.ส.สุภิช เพื่อทวงถามความจริง น.ส.สุภิช จึงให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหา นายชัยชนะ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ที่รับแสดงละครเป็นนายทหารยศพันโท ถ้าไม่เชื่อจะให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลพินัยกรรม โทรศัพท์มาพูดคุยและอธิบายเรื่องต่างๆ พร้อมทั้งหว่านล้อมว่ามรดกดังกล่าวมีอยู่จริง ก่อนจะพาผู้เสียหายไปเจอ น.ส.มาริษา เพื่อนในแก๊งอีกคน ที่เล่นบทเป็นทหารยศร้อยโท เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินเพิ่มเติมไปให้กับกลุ่มผู้ต้องหารวมทั้งหมดถึง 597 ครั้ง รวมแล้วเป็นเงินกว่า 232,910,617 บาท ก่อนจะมาทราบความจริงว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ก่อนที่กองปราบปรามจะติดตามวางแผนจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ยกแก๊ง
เบื้องต้นสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายจริง ส่วนเงินทั้งหมดที่ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายมาได้ ก็นำมาแบ่งกัน ก่อนจะนำเอาไปซื้อทรัพย์สิน เช่น นาฬิกา รถยนต์หรู บ้าน 8 หลัง รวมทั้งที่ดิน รวมมูลค่า 70 ล้านบาท ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนติดตามทรัพย์สินที่หลอกลวงมาได้ คืนให้ผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ดำเนินคดีต่อไป.