ข่าวช็อกความจริง!ยิง'ลูกเพื่อน'ไส้ไหล นึกว่าลักตังค์ที่แท้เมาลืม - kachon.com

ช็อกความจริง!ยิง'ลูกเพื่อน'ไส้ไหล นึกว่าลักตังค์ที่แท้เมาลืม
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ร.ต.อ.ธนวรรธน์ ภริตพรพันธุ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก นายกิตติพงษ์ ภิญโญ ผญบ.มะเกลือเก่า หมู่ 2 ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน ว่าเกิดเหตุยิงกันในบ้านเลขที่ 97 หมู่ 2 ต.มะเกลือเก่า โดยผู้ได้รับบาดเจ็บรอความช่วยเหลืออยู่ จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ราเชน ไผ่เกาะ ผกก.และกู้ภัยมูลนิธิสว่างแสงธรรม เมื่อไปถึงพบร่าง นายทวี ศรีจันทึก อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านนอนหายใจรวยรินอยู่ที่พื้น ที่หน้าทองมีไส้ไหลออกมากองอย่างน่าสยดสยอง กู้ภัยรีบปฐมพยาบาลก่อนนำส่ง รพ.สูงเนิน และส่งต่อไปที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา



นายบุญนาค ศรีจันทึก อายุ 74 ปี บิดาผู้บาดเจ็บ ให้การว่า มือปืนที่ยิงลูกชายคือ นายนิคม มะกอง อายุ 74 ปี เป็นเพื่อนสนิทของตน อยู่บ้านใกล้กัน ส่วนสาเหตุมาจากเมื่อเย็นวานนี้ (1 เม.ย.) นายนิคมได้มาหาตนที่บ้านบอกว่าวันนี้ขายข้าวในนาได้เงินมา 48,000 บาท จากนั้นก็ควักแบงก์พัน 1 ใบ ส่งให้นายทวี บอกให้ช่วยไปซื้อเหล้าขาวมาให้หน่อย 1 ขวด ลูกชายจึงไปซื้อให้แล้วนำเงินทอนให้ 940 บาท นายนิคมก็เอาเงินทอนใส่กระเป๋าไปรวมกับของเดิม ทำให้ในกระเป๋ามีเงินอยู่ 47,940 บาท หลังจากดื่มกันจนเมามากนายนิคมก็กลับบ้านไม่ไหว ลูกชายตนจึงประคองไปนอนในห้อง

"แต่พอเช้ามานายนิคมก็ตะโกนโวยวายว่าลูกชายผมขโมยเงินไป 47,900 บาท เหลือติดอยู่ในกระเป๋าแค่ 40 บาท ลูกผมก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป รักเหมือนพ่อแท้ๆแล้วจะไปขโมยเงินได้ไง เขาก็ไม่เชื่อ ไม่ยอมฟัง ยังโวยวายต่อไป ผมรำคาญเลยบอกให้เขาไปแจ้งความจับได้เลย เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็๋โกรธมากแล้ววิ่งกลับไปเอาปืนลูกซองที่บ้านเขา ทำท่าจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลูกชายผมเลยรีบเข้าไปพูดห้ามปรามให้ใจเย็นๆ ปรากฏว่าเขาไม่สนใจและตัดสินใจเล็งปากปืนใส่พร้อมกับเหนี่ยวไกยิงใส่ลูกชายผมทันทีจนล้มทั้งยืน จากนั้นก็วิ่งหนีไป" พ่อคนเจ็บ ให้การ



ต่อมา ตำรวจได้บุกจับ นายนิคม ที่วิ่งหนีกลับไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักจึงเข้าควบคุมตัวไว้พร้อมด้วยปืนลูกซองยาว พบว่ามีทะเบียนถูกต้อง ก่อนเอาตัวมาสอบสวน โดยนายนิคม ยอมรับว่า ก่อเหตุจริง เนื่องจากลูกชายเพื่อนขโมยเงินไปตอนเมาหลับ ไม่คิดว่าจะทำกันได้ลงคอ ตนรักคนเจ็บเสมือนลูกแท้ๆ

ไม่นานนัก ลูกชายของผู้ต้องหาก็เดินทางเข้าพบตำรวจ พร้อมกับนำเงิน 47,000 บาท ที่บิดาอ้างว่าโดนขโมยไปมาโชว์ให้เป็นหลักฐานด้วย ก่อนจะเล่าว่า เงินทั้งหมดนี้บิดาคิดว่าคนเจ็บขโมยไป แต่ที่จริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด เพราะบิดาเอาไปซุกไว้ใต้หมอนเอง พอตื่นมาแล้วเปิดกระเป๋าเงินไม่เจอก็นึกไปเองว่าถูกขโมย ซึ่งทันทีที่ นายนิคม รู้ความจริงทั้งหมดก็ถึงกับร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจ แต่ไม่สามารถแก้ไขอะไรทันแล้ว จึงถูกแจ้งข้อหาพยายามฆ่าโดยเจตนา.