'บอย นาคคำ'อุทธรณ์สำเร็จ! โทษจำคุกเหลือ2ปี18เดือน
อาชญากรรม
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีฟอกเงิน หมายเลขดำฟย.24/2560 ที่ พนักงานอัยการคดีพิเศษ 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายณัฐพล นาคคำ หรือ "บอย" นักค้ายาเสพติดชื่อดังเครือข่ายไซซะนะ เป็นจำเลยฐานร่วมกันฟอกเงิน จากการค้ายาเสพติด ตามฟ้องโจทก์บรรยายสรุปว่า ในปี 2555 - 2560 จำเลยทำการโอนเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดอย่างน้อย 4 ครั้ง ให้กับ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง นำไปซื้อทรัพย์สิน เพื่อปกปิดที่มาของเงิน โดยครั้งแรกระหว่างวันที่ 2 พ.ค. 55 - 2 ก.พ.60 โอนเงินให้ไปซื้อรถยนต์หรูและทรัพย์สินอื่น, ครั้งที่ 2 วันที่ 29 ธ.ค.57 - 22 พ.ย.59 โอนเงินให้ 22 ครั้ง จำนวนกว่า 7 ล้านบาท, ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 25 ส.ค. - 25 ก.ย.59 โอนเงินให้ 4 ครั้ง กว่า 6.7 แสนบาท และครั้งสุดท้าย 3 เม.ย.59 โอนเงินให้อีก 1 ล้านบาท จำเลยรับสารภาพให้การเป็นประโยชน์แก่รูปคดี ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 4 ปี 18 เดือน
ต่อมาจำเลยได้ขออุทธรณ์ในประเด็นที่โอนเงิน 22 ครั้ง จำนวนกว่า 7 ล้านบาท ขอให้ศาลลงโทษสถานเบาด้วย โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาในประเด็นนี้หนักเกินไป อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน พิพากษาแก้โทษ เหลือจำคุก 2 ปี 18 เดือน
สำหรับ นายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ ถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดปฏิบัติการ ชัยยะสยบไพรี 60/2"เครือข่ายผาขาว"จับกุมพร้อมพวกอีก 2 คน ยึดยาเคตามีน 21 กิโลกรัม และยึดทรัพย์สินมาทำการตรวจสอบทั้งรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รถตู้ บิ๊กไบค์ สร้อยคอทองคำ และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และตำรวจยังขยายผลค้นบ้านนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง พร้อมยึดรถลัมโบกินี ราคา 20 ล้านบาท มาตรวจสอบ ซึ่งนายเบนซ์ ให้การว่าเป็นรถที่ซื้อต่อมาจากนายบอย.