'ศรีวราห์'ลั่นทำคดีไร้การเมือง ย้ำไม่เป็นลูกกระเป๋งใคร
อาชญากรรม
จากกรณี ตำรวจออกหมายเรียก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ และมาตรา 189 ช่วยเหลือหรือให้ที่พำนักผู้ต้องหา ในวันที่ 6 เม.ย. เวลา 10.00 น. ทำให้สังคมเกิดความคลืบแคลงสงสัยว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเกมการเมืองหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยว่า คดีนี้ยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะสามารถใช้ดำเนินคดีกับนายธนาธรได้ ยืนยันไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและไม่ได้ดิสเครดิตใคร ไม่เกี่ยวการเมือง เป็นเรื่องการทำคดีที่ค้างอยู่ตามปกติ
" เรื่องนี้ไม่มีเรื่องอะไรแอบแฝง ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งไปแล้ว คงไม่ตัดสินคดีก่อนวันที่ 9 พ.ค.นี้ แน่นอน ยืนยันไม่ได้มีใบสั่งจากใคร ไม่ได้เป็นลูกกระเป๋งใคร ตำรวจทำงานตรงไปตรงมา ตามกบิลบ้านกบิลเมือง ฝากเตือนอย่าเอาหมายเรียกมาเป็นเครื่องมือในการใช้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง หากใครทำตำรวจเสียหาย วิจารณ์โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงไปกล่าวหาให้เสียหายก็ดำเนินคดีได้" รองผบ.ตร.กล่าวและเผยต่อไปว่า
พยานหลักฐานอย่างหนึ่ง ก็คือการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายธนาธร ในวันที่ 24 มิ.ย. ระบุว่าตัวเองอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นการให้การปรปักษ์ รับว่าตัวเองอยู่ในที่เกิดเหตุ สน.ปทุมวัน รวมทั้งรถที่นำมาใช้ และหลักฐานอื่น ๆ ตำรวจมั่นใจว่ามีหลักฐาน แต่อยู่ในสำนวน ทั้งนี้หากการสอบสวนสืบสวนพบว่า การกระทำของนายธนาธรในวันนั้น เข้าข่ายความผิดอื่น เช่น ป.อาญา มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ มาตรา 216 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไป ผู้ใดไม่เลิกฯ ถ้าเข้าข่ายก็แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้อีก ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน
รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ในวันที่นายธนาธรจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน ตำรวจไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษ หากประชาชนจะเดินทางมาให้กำลังใจก็สามารถทำได้ แต่ขออย่าทำผิดกฎหมาย เพราะตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนทำผิด
สำหรับกรณี นายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ที่ถูกพนักงานสอบสวนปอท.ออกหมายเรียกนั้น รองผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกับหน่วยงานรับผิดชอบ คดีของนายปิยะบุตร อยู่ในความรับผิดชอบของ บช.ก. ส่วนของนายธนาธรเป็นเรื่องของนครบาล ย้ำว่าการดำเนินคดีตอนนั้น ไม่ใช่การไล่เช็กบิลฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล อย่าเอามาโยงกัน คนละเรื่อง ตำรวจทำตามกฎหมาย ใครจะมองว่าตอกลิ่ม หรือสร้างความขัดแย้งอะไรก็แล้วแต่ ตนไม่ทราบ ทราบแต่ว่านี่คือการทำตามกฎหมายและทำคดีที่ค้างอยู่ สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในตอนนี้ ห่วงมือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในการชุมนุมต่าง ๆ เท่านั้น.