ข่าวร้องเขยประชดเมียพิเรนทร์ จับลูกซดยาซักผ้าอัดคลิปขู่ - kachon.com

ร้องเขยประชดเมียพิเรนทร์ จับลูกซดยาซักผ้าอัดคลิปขู่
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา นางบัว (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นำคลิปหลักฐานเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ โดยอ้างว่า นายเชน (นามสมมุติ) ชาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ลูกเขย ได้ให้หลานทั้ง 3 คน ดื่มน้ำยาซักผ้าขาวแล้วถ่ายคลิปส่งไปให้บุตรสาว คือ น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 29 ปีดู หลังจากไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ทำให้ทั้งตน ลูกสาวและญาติพี่น้องตกใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ บุตรสาวของตนอยู่กินกับ นายเชน จนมีบุตรด้วยกัน 4 คน โดยลูกคนโต ทางคู่เขยของ นายเชน ได้ขอไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่เกิด ส่วนอีก 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน อายุ 6 ขวบ 5 ขวบ และ 3 ขวบ จนกระทั่งปี 2561 ลูกสาวเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลี และให้สามีเป็นคนเลี้ยงลูก ก่อนจะส่งเงินมาให้ใช้เป็นระยะ

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แตงคูหา ผกก.สภ.กะปง อ.ทุ่งสง และ นางศรุดา พรหมมา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครศรีธรรมราช ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ลงพื้นที่บ้านตรวจสอบในทันที เบื้องต้น พบว่า นายเชน อาศัยอยู่กับลูกทั้ง 3 คน ในบ้านพักแบบชั้นเดียวค่อนข้างทรุดโทรม พอสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น นายเชน ยอมรับว่า เป็นคนตั้งกล้องมือถือถ่ายคลิปดังกล่าวส่งไปให้ภรรยาที่ประเทศเกาหลีจริง โดยอ้างว่าต้องการประชดภรรยา ที่ไม่ยอมกลับมาบ้าน แถมระยะหลังก็ไม่ค่อยส่งมาเงินมาให้ใช้ จึงเกิดอาการเลยเครียด ไม่มีเงินใช้จ่ายเลี้ยงลูก 



อย่างไรก็ตาม นายเชน ยังอ้างอีกว่า ภาพที่ดื่มกินน้ำยาซักผ้าขาวนั้น แท้จริงแล้วตนได้ล้างขวดน้ำยาจนสะอาด ก่อนจะทำทีใส่น้ำเปล่าให้ลูกดื่มกิน จึงไม่มีอันตรายแต่อย่างใด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเชนและลูกทั้ง 3 คน ไปยังสภ.กะปง เพื่อว่ากล่าวตักเตือนรวมทั้งภาคทัณฑ์  ก่อนลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ได้อาศัย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก รับเด็กทั้ง 3 คน เข้าดูแลยังบ้านพักทันที จนกระทั่งล่าสุด นางบัว  ผู้เป็นยาย ได้รีบเดินทางไปขอรับตัวหลานทั้ง 3 คน กลับไปเลี้ยงดูกับญาติ จ.ขอนแก่นแล้ว รวมทั้งได้ติดต่อกลับมาเพื่อขอบคุณ นางปวีณา หงสกุลและมูลนิธิปวีณาฯ ที่ให้การช่วยเหลือในครั้งนี้.

ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี