ข่าวทนายชี้ครอบครองกัญชา ไม่ขออนุญาตมีความผิด(คลิป) - kachon.com

เมื่อวันที่  8 เม.ย. นายเดชา กิตติวิทยานันท์  ทนายชื่อดัง เจ้าของเพจ “ทนายคลายทุกข์” ได้ให้ความเห็นทางกฏหมายกับ เดลินิวส์ออนไลน์ กรณี เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.เข้าจับกุมมูลนิธิแห่งหนึ่งในจ.สุพรรณบุรี หลังมีการแจกน้ำมันสารสกัดจากกัญชาให้กับประชาชนเพื่อนำไปใช้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยภายในวัดที่จ.พิจิตรและจ.ลพบุรี ได้พร้อมของกลางจำนวนมากว่า กฏหหมายยาเสพติดฉบับใหม่ พรบ.ยาเสพติดให้โทษ พศ.2522 ฉบับที่ 7 เพิ่งจะมีผลใช้บังคับและกำลังเป็นปัญหาถกเถียงกรณีที่มีการไปจับอ.เดชา กำลังจะแจกน้ำมันกัญชา หลายคนถามว่ากรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ไปกลั่นแกล้งหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายยาเสนติดบับที่ 7 ซึ่งแก้ไขใหม่ ระบุไว้ชัดเจนว่า กัญชาเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 เพราะฉะนั้นใครครอบครอง ใครเสพ ใครจำหน่ายไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์อะไรก็แล้วแต่ถือว่ามีความผิดอันนี้ข้อแรก เขียนไว้ชัดเจน อย่าไปตีความแบบศรีธนชัย
 
ทนายเดชา กล่าวต่อว่า ข้อที่สองถ้าแบบจะไม่ต้องรับโทษ คนครอบครองอาจจะเป็นผู้ป่วย อาจจะเป็นหมอพื้นบ้าน อาจจะเป็นหน่วยงานของรัฐหรือใครก็แล้วแต่หรือนิติบุคคล ถ้าจะครอบครองยาเสพติดกัญชาต้องไปขออนุญาต ไปแจ้ง ไปแสดงตนและต้องได้รับอนุญาต จึงจะไม่ต้องรับโทษ  คราวนี้กฎหมายฉบับนี้บอกว่า ใน5 ปีแรกหลังกฎหมายยาเสพติดที่แก้ไขใหม่มีผลใช้บังคับ 5 ปีแรกคนที่สามารถครอบครองกัญชา หรือผลิต หรือปลูก,สกัด,วิจัยกัญชาทางการแพทย์ได้ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐเท่านั้น ถ้าบุคคลอื่นไม่ได้ยกเว้น กรณีที่นิติบุคคลไปร่วมกับหน่วยงานของรัฐจึงสามารถทำได้ไม่ต้องรับโทษ ทั้งนี้การไปจับแล้วพบต้นกัญชา 200 ต้นพบอุปกรณ์น้ำมันกัญชาถือว่ามีความผิด ไม่ได้ขออนุญาตไม่ได้รับอนุญาตก็ถือว่ามีความผิด ถ้าจะไม่ให้อ.เดชา ไม่ต้องถูกดำเนินคดี ก็ต้องไปแก้กฎหมายว่าไม่เป็นความผิด เพราะฉะนั้นจะไปสูบกัญชา จะไปปลูกกัญชา ใครเป็นผู้ป่วยจะเอากัญชามารักษาโรคต้องขออนุญาตและต้องได้รับอนุญาตถึงจะไม่ต้องรับโทษ
 

 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บุกค้น'มูลนิธิข้าวขวัญสุพรรณ' ผงะเจอ'กัญชา'200ต้น

5จนท.แฉแหลกที่มากัญชา เปิดเฟซสอนปลูกคิดหัว2พัน

แจงต้องจับมูลนิธิดัง ผลิตน้ำมันสกัดกัญชาแจกผู้ป่วย