กังวลลูกสาว'พ.ต.ท.'อาจต้องผ่าสมอง เหยื่อ'เสี่ยเบนซ์เมา'
อาชญากรรม
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. พ.ต.ท.ศิริพงษ์ เพื่อนสงคราม รอง ผกก.หัวหน้างานสอบสวน สน.ศาลาแดง เปิดเผยถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการหลังจากที่คุมตัว นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี เจ้าของบริษัทไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่า หลังศาลอนุญาตให้ประกันตัว ทางศาลได้มีการนัดหมายให้ นายสมชาย เดินทางไปรายงานตัวที่ศาลอีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะทำหน้าที่ต่อไปตามกระบวนการเฉกเช่นเดียวกับคดีที่เคยมีผู้ขับขี่ยานพาหนะเมาสุราแล้วเฉี่ยวชนคู่กรณีจนมีผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินได้รับความเสียหายทั่วๆ ไป
พ.ต.ท.ศิริพงษ์ กล่าวอีกว่า การสอบปากคำในชั้นสอบสวนผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ตามฐานความผิดที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาไป อีกทั้งผู้ต้องหายอมรับว่า จะชดใช้เยียวยาค่าสินไหมให้กับญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ ซึ่งประเด็นนี้ต้องรอหลังจากที่ฝ่ายญาติผู้เสียหายดำเนินการเรื่องการฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตเสร็จสิ้นแล้ว จะนัดหมายให้ทั้ง 2 ฝ่าย มาเจรจาต่อหน้าพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ส่วนการสรุปสำนวนส่งฟ้องหลังจากนี้จะต้องรอผลการตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้ต้องหา ว่าเคยมีประวัติต้องโทษคดีใดมาก่อนหรือไม่ รวมถึงรอผลการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย จากแพทย์นิติเวช รอผลการตรวจสอบรถยนต์คู่กรณีและที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐาน ก่อนรวบรวมสำนวนคดียื่นฟ้องต่ออัยการตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.วาที อัศวุฒมางกุร รอง ผบก.สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อนสนิทของ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อวานนี้เดินทางไปเยี่ยม ด.ญ.พิชญาภา งามสุวิชชากุล หรือน้องแพรว อายุ 12 ปี ลูกสาวคนเล็กของผู้ตาย ที่ รพ.กรุงเทพ เบื้องต้นเจ้าตัวมีอาการตอบสนองด้วยการขยับมือได้แล้ว หลังจากนี้แพทย์ที่ดูแลอาการแจ้งว่า ขอดูอาการอีก 2-3 วัน เพื่อพิจารณาอีกครั้งจะต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองหรือไม่ ส่วน น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล หรือน้องพลอย อายุ 16 ปี ลูกสาวคนโตที่กำลังศึกษาต่ออยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น อยู่ระหว่างเดินทางกลับมายังประเทศไทย คาดว่าช่วงเวลาประมาณ 21.30 น.วันนี้จะเดินทางมาถึง ซึ่งญาติๆ จะไปรับที่สนามบินก่อนเดินทางเข้าเยี่ยมอาการน้องสาวต่อไป