ข่าวพ่อเลี้ยงโหดฆ่าลูกเลี้ยงลั่น"ขอชดใช้1ชีวิตแลกกับ2ชีวิต" - kachon.com

พ่อเลี้ยงโหดฆ่าลูกเลี้ยงลั่น"ขอชดใช้1ชีวิตแลกกับ2ชีวิต"
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ได้เบิกตัวนายภูมใจ เหลืองทอง อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.นันทชยา จันทร์โมคา อายุ 29 ปี ลูกเลี้ยงตายทั้งกลม ออกจากห้องควบคุมมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ร่วมถึงจะมาการจำลองเหตุการณ์ฆ่าน.ส.นันท์ชยา ยง โดยจัดเตรียมสถานที่เป็นห้องประชุมของสน.คันนายาว  โดยมีนายธนวัตร แก้วคำสอน สามี.ส.นันทชยาและนายณัชพล สุวชัย อายุ 26 ปี น้องชายของผู้ตาย พร้อมด้วยกลุ่มญาติ และเพื่อนของผู้ตายเริ่มทยอยเดินทางมาที่สน. เพื่อมาดูการทำแผนเป็นจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดอยากจะถามผู้ต้องหาว่าฆ่าผู้ตายทำไมทำ ทางเจ้าหน้าที่ได้พาเดินขึ้นไปที่ห้องควบคุมเพื่อพูดคุยกับผู้ต้องหาผ่านลูกกรง โดยนายธนวัตร ถามนายภูมใจ ด้วยความโกธรเคืองว่าฆ่าน้องทำไมด้านนายภูมใจ ยกมือไหว้ขอโทษ ขณะนั้นนายธนวัตร ร่ำไห้ออกมาแล้วฉกไปที่ลูกกรงส่วนญาติคนอื่นๆ ก็ตะโกนด่าผู้ต้องหาอย่างรุนแรงทางเจ้าหน้าที่กลัวบานปลายจึงนำตัวผู้ต้องหากลับเข้าไปในห้องขัง


พ.ต.อ.สิงห์ กล่าวว่า การจำลองเหตุการณ์เป็นความสมัครใจของผู้ต้องหา โดยหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่นำตัวออกมาจากรพ.นพรัตน์ หลังสอบปากคำเสร็จผู้ต้องหานอนหลับสนิทหลังจากไม่ได้หลับนอนเนื่องจากหนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่ และญาติของผู้ตายมาหลายวัน จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การ อ้างว่าเริ่มจากตะโกนเรียกผู้เสียตายให้เปิดห้องโดยอ้างว่าจะยืมเงิน 2,000 บาท เมื่อผู้ตายเปิดประตูจึงใช้ค้อนที่เตรียมากระหน่ำตีผู้ตายจำนวนหลายครั้ง โดยเริ่มที่บริเวณศรีษะก่อนผู้ตายพยายามยกมือป้องกันจึงทุบที่ลำตัวจนหัวค้อนหลุดออกจากด้ามจับแล้วผู้ตายก็แน่นิ่งไป ส่วนสาเหตุเกิดจากไม่พอใจมารดาของผู้ตายที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ อย่างไรก็ตามเนื่องจากผู้ต้องหามีอาการเครียด และให้การว่าเคยพยายามฆ่าตัวตายมา 2 ครั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดให้มีการควบคุมอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการทำร้ายตัวเอง จากการตรวจสอบไม่พบว่าเคยมีประวัติอาชญกรรมหรือเสพยาเสพติดมาก่อน ทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (5) ต้องระวางโทษประหารชีวิต เพราะพบพฤติกรรมของผู้ต้องหาจากการตรวจพิสูจน์หลักฐานพบมีร่องรอยการทำร้ายบริเวณท้อง ลำตัว และศีรษะ กับหญิงที่ไม่สามารถต่อสู้ได้ ในวันที่ 15 เม.ย. จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี


ด้าน น.ส.ว่านไพลิน หอมวัชระ ทนายความอาสาของผู้ต้องหา กล่าวว่าคดีนี้มีอัตราโทษถึงประหารชีวิต ตามกฎหมายแล้วผู้ต้องหาจะต้องมีทนายความไม่ว่าจะร้องขอหรือไม่ก็ตาม โดยจากการพูดคุยผู้ต้องหามีอาการเครียด ระหว่างที่ให้คำปรึกษาด้านคดีตัวผู้ต้องหาก็ได้เเจ้งกับตนหลายครั้งว่าจะมีวิธีไหน หรือทำอย่างไรก็ได้ให้ศาลพิพากษาประหารชีวิต เนื่องจากเขาสำนึกผิดต่อการกระทำทุกอย่างจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ ระหว่างหลบหนีก็พยายามฆ่าตัวตายถึงสองครั้ง ครั้งแรกที่ห้องเช่ารายวันผู้ต้องหาพยายามใช้ไฟฟ้าช็อตตัวเองแต่ไฟตัดจึงไม่สำเร็จกระทั่งกินยาเบื่อหนูแต่หมอก็ช่วยไว้ทัน เขาอยากจะขอโทษญาติ เเละขอให้อโหสิกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสองสวนได้เบิกตัวนายภูมใจ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยจำลองเหตุการณ์บนห้องวิทยุชั้น 2 ของสน.คันนายาว และปิดประตูไม่อนุญาติให้สื่อเข้าไปเก็บภาพ โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 10 นาที ก่อนจะนำตัวกลับเข้าห้องขังตามเดิม ระหว่างนั้นนายภูมใจ เปิดเผยกับสื่อผ่านห้องขังว่า “อยากจะบอกผ่านสื่อไปถึงญาติของผู้เสียชีวิตว่า ตนเองรู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป ยอมรับว่าตอนนั้นโมโหขาดสติ เพราะตนรักแม่ของผู้ตายมาก จนลืมนึกไปว่าผู้ตายตั้งครรภ์อยู่ เชื่อว่าสิ่งที่ตนเองพูดไปคงไม่สามารถเปลี่ยนใจญาติคนตายได้ จึงอยากจะขออโหสิกรรมกับสิ่งที่ทำลงไป และอยากขอศาลหรือกระบวนการยุติธรรมให้ตัดสินประหารชีวิต หาก 1 ชีวิต แลกกับ 2 ชีวิตได้ก็ยอม”.