จับได้แล้วแก๊งปาดตบทรัพย์ เผยระบาดหนักพื้นที่อีสาน
อาชญากรรม
Webmaster
2019-04-19 15:53:00
25
Webmaster
2019-04-19 15:53:00
25
-
สนับสนุนเนื่อหา
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายรุจน์ รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ พร้อมด้วยพ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ และตำรวจสืบสวน สภ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด และทหารกองร้อย รส.ม.6พัน 6 กกล.จว.ขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวิศรุต(ตื้ด) อนันทวัน อายุ 25 ปี ชาว อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับศาลจังหวัดพล ที่ 155/ 2561 ลงวันที่ 4 ธ.ค. 2561 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันกรรโกทรัพย์ทำให้เสียทรัพย์ และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ซึ่งมีนายธนายงค์ ประเสริฐยิ่ง อายุ 59 ปี เกษตรกรอ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น พร้อมภรรยาชี้ให้จับกุม ก่อนควบคุมนายวิศรุตไปทำแผนในจุดเกิดเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพ
นายรุจน์รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2561 เวลาประมาณ 13.00 นายธนายงค์ ได้ขับรถยนต์ปิคอัพโตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน บม 1720 ขอนแก่น มีภรรยานั่งมาด้วย เมื่อขับมาถึงถนนสาย อ.บ้านไผ่ - อ.หนองสองห้อง ช่วงระหว่างบ้านป่าปอ -หนองดู่ ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ นายวิศรุต ร่วมกับ น.ส.มาระตี (บุ๋ม) บัวระพันธ์ อายุ 38ปี ได้ใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียน9115 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นทะเบียนปลอมโดย น.ส.มาระตี เป็นผู้ขับเบียดรถของ นายธนายงค์ เพื่อให้ชนรถยนต์ของ น.ส.มาระตี ที่ด้านท้าย จากนั้น นายวิศรุต ก็เข้ามาข่มขู่ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10,000 บาท ซึ่ง นายธนายงค์ บอกจะเรียกตำรวจมาทำคดี นายวิศรุต จึงยอมลดให้เหลือ 2,000 บาท เมื่อรับเงินไปแล้วก็หลบหนีไป นายธนายงค์ เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องเป็นพวกแก๊งปาดตบทรัพย์บนถนนหลวงที่เป็นข่าวบ่อยๆจึงตัดสินใจพาภรรยามาแจ้งความ ที่ สภ.บ้านไผ่
ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจาก นายธนายงค์ จึงได้สืบสวนขยายผลก็ทราบว่า นายวิศรุต และ น.ส.มาระตี ได้กระทำความผิดในลักษณะนี้มาหลายท้องที่ โดยร่วมกับเพื่อนๆในแก๊งขับรถปาดหน้าให้รถตามหลังชนท้ายแล้วตบทรัพย์ประมาณ 5 - 6 คน จึงประสานกับสภ.จังหาร ก่อนบุกจับกุม นายวิศรุต ได้ น.ส.มาระตี หลบหนีไปได้ สำหรับแก๊งปาดตบทรัพย์จะตระเวนก่อเหตุไปตามจังหวัดต่างๆในพื้นที่ภาคอีสาน มีทั้งที่ทำเป็นขบวนการและลงมือเพียงคนเดียว หลังก่อเหตุคนกลุ่มนี้จะกลับเข้าหมู่บ้านใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประกอบกับเมื่อเกิดเหตุแล้วเหยื่อไม่ไปแจ้งความจึงไม่มีหลักฐานเอาผิดคนกลุ่มนี้ไปดำเนินคดี เริ่มแรกทำกันอยู่ 1-2 ครอบครัว เมื่อเห็นว่ามีรายได้ดีก็จะชักชวนกันเมื่อไปก่อเหตุ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ติดตามพฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้มาโดยตลอดและให้ข้อมูลว่ามีรายชื่อของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ทั้งหมดแล้วแต่ยังอยู่ระหว่างติดตามพฤติกรรมและจับกุม.
นายรุจน์รังษี นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2561 เวลาประมาณ 13.00 นายธนายงค์ ได้ขับรถยนต์ปิคอัพโตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน บม 1720 ขอนแก่น มีภรรยานั่งมาด้วย เมื่อขับมาถึงถนนสาย อ.บ้านไผ่ - อ.หนองสองห้อง ช่วงระหว่างบ้านป่าปอ -หนองดู่ ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ นายวิศรุต ร่วมกับ น.ส.มาระตี (บุ๋ม) บัวระพันธ์ อายุ 38ปี ได้ใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า สีขาว ทะเบียน9115 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นทะเบียนปลอมโดย น.ส.มาระตี เป็นผู้ขับเบียดรถของ นายธนายงค์ เพื่อให้ชนรถยนต์ของ น.ส.มาระตี ที่ด้านท้าย จากนั้น นายวิศรุต ก็เข้ามาข่มขู่ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10,000 บาท ซึ่ง นายธนายงค์ บอกจะเรียกตำรวจมาทำคดี นายวิศรุต จึงยอมลดให้เหลือ 2,000 บาท เมื่อรับเงินไปแล้วก็หลบหนีไป นายธนายงค์ เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องเป็นพวกแก๊งปาดตบทรัพย์บนถนนหลวงที่เป็นข่าวบ่อยๆจึงตัดสินใจพาภรรยามาแจ้งความ ที่ สภ.บ้านไผ่
ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจาก นายธนายงค์ จึงได้สืบสวนขยายผลก็ทราบว่า นายวิศรุต และ น.ส.มาระตี ได้กระทำความผิดในลักษณะนี้มาหลายท้องที่ โดยร่วมกับเพื่อนๆในแก๊งขับรถปาดหน้าให้รถตามหลังชนท้ายแล้วตบทรัพย์ประมาณ 5 - 6 คน จึงประสานกับสภ.จังหาร ก่อนบุกจับกุม นายวิศรุต ได้ น.ส.มาระตี หลบหนีไปได้ สำหรับแก๊งปาดตบทรัพย์จะตระเวนก่อเหตุไปตามจังหวัดต่างๆในพื้นที่ภาคอีสาน มีทั้งที่ทำเป็นขบวนการและลงมือเพียงคนเดียว หลังก่อเหตุคนกลุ่มนี้จะกลับเข้าหมู่บ้านใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประกอบกับเมื่อเกิดเหตุแล้วเหยื่อไม่ไปแจ้งความจึงไม่มีหลักฐานเอาผิดคนกลุ่มนี้ไปดำเนินคดี เริ่มแรกทำกันอยู่ 1-2 ครอบครัว เมื่อเห็นว่ามีรายได้ดีก็จะชักชวนกันเมื่อไปก่อเหตุ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ติดตามพฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้มาโดยตลอดและให้ข้อมูลว่ามีรายชื่อของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ทั้งหมดแล้วแต่ยังอยู่ระหว่างติดตามพฤติกรรมและจับกุม.
