ข่าวแม่เด็กพิการโวยลูกตายแล้วถูกโจรฉกข้อมูลไปขอบริจาค - kachon.com

แม่เด็กพิการโวยลูกตายแล้วถูกโจรฉกข้อมูลไปขอบริจาค
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นางกันยา พวงนาค อายุ 43 ปี ผู้พิการทางหู ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีที่ ด.ช.จตุพล พวงนาค อายุ12ปี ลูกชาย ซึ่งมีอาการไข้สูงจนช็อค ตนจึงได้พาไปหาหมอจนกลายสภาพมาเป็นเด็กพิการ จนกระทั่งมีผู้ใจบุญทั่วประเทศบริจาคเงินช่วยเหลือมา เป็นจำนวนมากแล้วนั้น ต่อมาลูกชายได้เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ด้วยการช่วยเหลือของคนไทยทั้งประเทศทำให้ตนได้อสร้างบ้านใหม่มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่มาวันนี้กลับมีมือดีในโลกโซเชียล ได้นำข้อมูลของตนและลูกชายไปแอบอ้างเปิดขอรับบริจาคเงิน


นางกันยา กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 เม.ย. มีคนรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก ได้ส่งข้อความมาหาตน แล้วถามมาว่า “ตอนนี้ยังเปิดรับบริจาคอยู่อีกหรือ” พร้อมกับส่งรูปที่เป็นการเปิดรับบริจาค ซึ่งโพสต์โดยชายคนหนึ่งเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา เมื่อตนเห็นเช่นนั้นจึงตกใจมาก เพราะลูกชาย ได้เสียชีวิตไปหลายเดือนแล้ว จึงรวบรวมหลักฐานทั้งหมดและเดินทางไปที่ สภ.เมืองพะเยา เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. จักราธร ตันบุราวงค์ ไว้เป็นหลักฐานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความ ขอรับบริจาค พร้อมนำรูปเก่าของตนและลูกชายมาใช้ ชื่อบัญชีและเลขที่บัญชี ไม่ใช่ของตนเอง โดยมีเหยื่อหลงเชื่อบริจาคเงินไป หลายราย เป็นซึ่งบัญชีที่ตนเปิดไว้เพื่อรับบริจาคจากธารน้ำใจของคนไทยทั้งประเทศนั้น ถูกปิดไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้เรื่องราวดังกล่าวได้ถูกชาวบ้านกลุ่มหนึ่งในพื้นที่โพสต์ด่าทอตนเองว่าที่เรื่องราวเกิดขึ้นนี้ ก็เพราะตนเองเอาลูกมาหากิน ตนรับไม่ได้เป็นอย่างมาก เพราะตนเองตั้งใจรักษาและดูแลลูกชายอย่างดีตามที่คนไทยทั้งประเทศได้ตั้งใจช่วยบริจาคเงินมาให้จนลูกชายของตนเองถึงวาระสุดท้ายของชีวิต หลังจากนี้ไปก็จะนำเงินบริจาคส่วนที่เหลือดังกล่าว ไปใช้ในชีวิตประจำวันและเป็นทุนตั้งตัว เพราะทุกวันนี้ตนต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังแล้ว


ด้าน น.ส.จุฬาสินี โรจนคุณกำจร นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา ได้กล่าวเสริมว่า ได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ให้กำลังใจนางกันยา ให้ต่อสู้กับชีวิตต่อไป โดยไม่ต้องสนใจสิ่งรอบข้างที่มากระทบตัวนางกันยา นอกจากนี้ตนเองยังได้ปรึกษากับเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพะเยาแล้วว่า เดือน พ.ค.นี้จะได้ส่งตัวนางกันยาไปที่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว จ.เชียงราย เพื่อฝึกฝนให้นางกันยาได้มีอาชีพติดตัวและสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพในอนาคตเพื่อเลี้ยงตัวนางกันยาเอง นอกจากนี้ยังเป็นการที่จะทำให้นางกันยาไม่คิดถึงเรื่องในอดีตต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับลูกชายของนางกันยา เพราะทุกวันนี้สภาพจิตใจของนางกันยาก็บอบช้ำมามากพอแล้ว