ข่าว'ดูคาติ'คว่ำรถพังจอดไว้โรงพัก กระอักถูกฉกอะไหล่เกลี้ยง - kachon.com

'ดูคาติ'คว่ำรถพังจอดไว้โรงพัก กระอักถูกฉกอะไหล่เกลี้ยง
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่สน.พญาไท นายชิดชัย สัมปันโน หรือ โย อายุ 25 ปี พร้อมด้วย น.ส.จิดาภา โสวัณณ หรือ บีม อายุ 21 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.กฤษณะ มั่นศักดิ์ รองสว.(สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์อะไหล่ส่วนควบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ 795 สีแดง ทะเบียน 1 กฮ 7440 กรุงเทพมหานคร หลังประสบอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำซากรถมาเก็บรักษาไว้ที่โรงพักพญาไท โดย นายชิดชัย กล่าวว่า ซื้อรถคันนี้มาได้ประมาณ 6 เดือน เป็นรถมือสองในราคา 3 แสนกว่าบาท ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังขี่รถกลับจากบ้านเพื่อนย่านดาวคะนอง เพื่อมารับแฟนสาวย่านทองหล่อ เมื่อมาถึงบริเวณสะพานข้ามแยกยมราช ได้เกิดประสบอุบัติเหตุเสียหลักล้มลงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากกะโหลกศีรษะร้าว แขนขวาหัก บาดเจ็บตามร่างกายอีกหลายแห่ง และสลบไม่ได้สติ จากนั้นถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งห้องไอซียู รพ.รามาธิบดี เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็ทราบว่ารถถูกนำไปเก็บรักษาที่ สน.พญาไท หลังจากนั้นมารดาของตนได้เดินทางมาดูรถในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน โดยมีการบันทึกภาพของซากรถเอาไว้ซึ่งอุปกรณ์ทุกชิ้นยังอยู่ครบถ้วน 


นายชิดชัย กล่าวอีกว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา แพทย์ได้อนุญาตให้ตนออกมารักษาตัวอยู่ที่บ้านได้ จึงตัดสินใจเดินทางมาดูรถด้วยตนเอง ก็ยังพบว่าอุปกรณ์ทุกส่วนยังอยู่ครบ ถึงแม้จะพังเสียหายทั้งคัน โดยทางตำรวจได้แนะนำให้ตนนำรถกลับคืนไปได้เลย เนื่องจากไม่ใช่คดีอาญา ตนจึงบอกว่าจะมารับรถกลับในภายหลังเพราะยังหารถมาขนไม่ได้ ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ จนกระทั่งวันที่ 19 เม.ย. ได้ประสานให้ทางช่างซ่อมนำรถกระบะมาขน ก่อนทางช่างจะโทรศัพท์กลับมาบอกว่า "...ปั้มเบรกหน้า-หลัง ถูกตัด รวมถึงชุดโช๊คหน้าพร้อมล้อแม๊ก ยาง และเรือนไมล์ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 128,844 บาท ได้หายไปอย่างลึกลับ..." ด้วยความตกใจตนจึงรีบเดินทางมาดูก็ พบว่าอะไหล่ส่วนควบดังกล่าวได้หายไปจริง จึงรีบไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ว่าชิ้นส่วนต่างๆหายไปได้อย่างไร ทั้งๆที่อยู่ในสน. ถึงแม้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เก็บรถของกลางก็ตาม แต่ก็น่าจะปลอดภัยเนื่องจากเป็นสถานที่ราชการเพื่อให้บริการประชาชน 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง ก่อนเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.