ข่าว'บิ๊กอู๊ด'ซัดเรียกรับผลประโยชน์ หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก - kachon.com

'บิ๊กอู๊ด'ซัดเรียกรับผลประโยชน์ หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 เม.ย. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) เดินทางเข้ามอบนโยบายแก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สตม. ตั้งแต่ระดับหัวหน้าด่านขึ้นไปร่วมรับฟัง เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ภายหลังเสร็จพิธีส่งมอบตำแหน่งให้กับ พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน(ผบช.ตชด.) เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ทั้งนี้ ก่อนการเดินทางมามอบนโยบาย ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองคือวิหารหลวงพ่อเข้าเมือง และศาลตายายหรือศาลานางไม้

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการมอบหมายนโยบายในครั้งนี้ เน้นในเรื่องการทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามที่รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ โดยกำชับให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ทั้งในด้านความมั่นคงเพื่อป้องกันไม่ให้มีกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติเข้ามาในไทย และด้านการท่องเที่ยว ที่ต้องสร้างความสมดุลย์กัน เพราะหากเข้มงวดมากเกินไป อาจทำให้นักท่องเที่ยวลดลงได้ จึงต้องคัดกรองให้คนดีเข้ามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่จะถึงนี้ จะต้องเข้มงวด ไม่ให้มีอะไรกระทบได้เด็ดขาด ทางเราได้ประสานกับท้องที่และกองปราบปราม รวมถึงอินเตอร์โพล ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่กังวล เพราะตำรวจ ตม.มีความรู้ความสามารถ นอกจากนี้ ยังพร้อมสานต่อนโยบายของผู้บัญชาการแต่ละท่านในทุกยุค โดย สตม.ล้วนมีการบริหารที่ดีอยู่แล้ว และยังดีอย่างต่อเนื่อง ตนเชื่อว่าผู้บัญชาการทุกคนล้วนคิดดี หากมีอะไรที่ขาดตกบกพร่อง จะพยายามแก้ไขให้ดีขึ้น ทั้งนี้ในส่วนเรื่องปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์ภายในองค์กรนั้น เป็นที่รับทราบดี ซึ่งเราต้องช่วยกันแก้ไขเหมือนที่ผ่านมาในทุกสมัย ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาจะทำให้ดีที่สุด ใครทำผิดว่าตามผิดตามระบบกฎหมายปกติ พร้อมสั่งกำชับให้หัวหน้าหน่วยดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี หากหัวไม่ส่ายหางคงไม่กระดิก


นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ยังกล่าวถึงกรณีโลกโซเชียลแชร์เรื่องราวของคนไทยกว่า 300 ราย ถูกกักภายในด่าน ตม.ประเทศเกาหลีใต้ หลังเดินทางด้วยสายการบินราคาถูกแห่งหนึ่งแล้วติดด่านยกลำว่า ทางเราได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่าง ตม.เกาหลีใต้ อยู่ตลอด หากพบว่ามีบริษัทไหนหลอกประชาชนไปทำงานก็พร้อมจะดำเนินคดีกับบริษัทนั้น ทางเราจะอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนที่ถูกปล่อยลอยแพ โดยสายการบินที่พาไปต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามระเบียบในการส่งตัวกลับ โดยที่ผ่านมา มีการประชุมอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่พบศีรษะหญิงชาวไทยที่ประเทศโปรตุเกสว่า ทางผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ประสานตำรวจโปรตุเกส เพื่อเร่งดำเนินการติดตามตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี สอดรับกับทางพล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบก.สส.สตม.) กล่าวว่า จากตรวจสอบพบเป็นศีรษะของ น.ส.นัชยา เจนจบ ที่หายไปจากที่พักตั้งแต่ปี 2561 ต่อมาสืบทราบว่า น.ส.สงาม สวาตะโกน เพื่อนร่วมงานคนไทยและอยู่ด้วยกันเป็นคนสุดท้าย ก่อน น.ส.นัชยา จะหายตัวไป ขณะนี้ตำรวจโปรตุเกสอยู่ระหว่างสอบปากคำอยู่ และจะรายงานมาที่สถานทูตไทยประจำประเทศโปรตุเกส นอกจากนี้ยังสืบทราบว่า น.ส.สงาม มีสามีเป็นชาวปากีสถานนั้นได้หายตัวไป จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลชาวปากีสถานที่เข้ามาในประเทศไทยกว่า 523 คนว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับ น.ส.สงามบ้าง