พ่อแท้ๆฉุน'พ่อเลี้ยง'ไม่ใช่คน ปาดคอเมีย-อุ้มลูกให้รถชน
อาชญากรรม

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. พญ.รจนา ขอนทอง ผอ.รพ.กำแพงเพชร พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา และตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ ที่ถูกพ่อเลี้ยงอุ้มวิ่งตัดหน้าให้รถกระบะชน หวังฆ่าตัวตายทั้งคู่ หลังพ่อเลี้ยงก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมปาดคอภรรยาที่เป็นแม่แท้ๆเด็กจนเสียชีวิตภายในห้องแถว เลขที่ 45/2 หมู่ 1 ต.คณฑี อ.เมืองกำแพงเพชร
พญ.รจนา เปิดเผยว่า ขณะนี้เด็กปลอดภัยและพ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งดูจากผลตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ไม่มีเลือดออกในสมอง แต่มีภาวะกะโหลกศีรษะร้าวหรือแตกเล็กน้อย รวมถึงมีบาดแผลถลอกตามตัว ต้องใช้เวลารักษา 1-2 สัปดาห์ ถึงจะหายเป็นปกติโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด อาจมีปัญหาเรื่องของอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาจจะมีแรงดันในกะโหลกสูงได้ ทำให้ต้องย้ายเด็กไปอยู่ห้องพิเศษ
"วันนี้ได้นำตุ๊กตาหมูสีชมพูมาให้น้องด้วย น้องดีใจมาก สามารถตอบสนองขยับร่างกายได้ แต่ต้องนอนตะแคงด้านขวา เพราะมีบาดแผลที่แขนและขาข้างซ้าย รวมถึงลำตัว สามารถสนทนาได้ดี ยังพูดด้วยว่า วันนี้หนูอยากกินโจ๊กไก่เป็นพิเศษ ส่วนพ่อแท้ๆของน้องตอนนี้ได้เดินทางมาเฝ้าอาการลูกสาวแล้วด้วยความห่วงใย" พญ.รจนา เผย

นายทวัฒ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ที่เป็นพ่อแท้ๆของเด็ก เปิดเผยว่า รู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก ยังไม่สามารถทำใจได้ มันเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่จงใจเอาเด็กไปให้รถชน ทำแบบนี้มันไม่ใช่จิตใจคนแล้ว เขาไม่น่าทำกับเด็กขนาดนี้ หลังจากนี้จะให้อยู่กับยายสักพัก หากลูกอยากไปอยู่กับตนก็พร้อมจะดูแลเอง
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายพงศกร อู่ทอง อายุ 34 ปี หลังฆ่าปาดคอภรรยาและได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งให้รถชน ตอนนี้ก็นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นกัน โดยมีตำรวจเฝ้ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ขณะที่ นางพรพิลัย (สงวนนามสกุล) ผู้ตาย ญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลที่พิษณุโลกแล้ว.
