ข่าวแค้นเมียหนีไปกับชายอื่น คว้าอีโต้หั่นคอลูก7ขวบสาหัส - kachon.com

แค้นเมียหนีไปกับชายอื่น คว้าอีโต้หั่นคอลูก7ขวบสาหัส
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. พ.ต.อ.สมศักดิ์ นิเต็ม ผกก.สภ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์  พร้อมเจ้าหน้าที่ คุมตัว นายมนตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังหนึ่ง ใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ หลังจากก่อเหตุใช้มีดอีโต้หั่นคอลูกสาววัย 7 ขวบ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ชำนิ ได้รับแจ้งเหตุพ่อพยายามฆ่าลูกในบ้านพัก จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีร่างของเด็กหญิงถูกของมีคมเข้าที่บริเวณท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์ลึก จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล และ พบนายมนตรี  พ่อของเด็กที่ถูกทำร้าย นอนเมาสุราไม่ได้สติ ข้างตัวมีมีดอีโต้ยาว 50 ซม.และขวดเหล้าขาวที่ทั้งกินหมดแล้วและยังเหลือ วางอยู่ข้างตัว


จากการสอบสวน ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี ลูกสาว นายมนตรี เป็นพี่สาวของด.ญ.ที่ถูกเชือดคอ ทราบว่า ก่อนนอนภรรยาของ นายมนตรี ซึ่งเป็นแม่ของเด็กได้วีดีโอคอลเข้ามาคุยกับ ด.ญ.เอ พอ นายมนตรี ได้เห็นหน้าภรรยาและรู้ว่าอยู่กับแฟนใหม่ จึงไปซื้อเหล้าขาวมาดื่มย้อมใจจนเมา จากนั้น นายมนตรี ได้ถาม ด.ญ.เอ ว่า "จะไปกับพ่อมั้ย จะพาไปปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์ แล้วกระโดดตายด้วยกัน" ด.ญ.เอ จึงพยักหน้า ส่วนน้องสาวได้หลับแล้ว ทันใดนั้น นายมนตรี ได้เข้าไปหยิบมีดอีโต้ที่เสียบไว้ในถังพลาสติกสำหรับผสมปูนบริเวณหน้าห้อง จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองข้างกดมีดด้านที่คมลงไปที่คอของเหยื่อที่นอนตะแคงอยู่ จนเด็กหญิงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดและเลือดได้พุ่งออกมาจำนวนมาก ด.ญ.เอ จึงไหว้พ่อขอให้หยุดทำร้ายน้อง จากนั้นยายของเด็กที่นอนอยู่อีกห้องได้ยินเสียง จึงเข้ามาดูและแย่งมีดไป แล้วรีบแจ้งทางตำรวจเพื่อมาให้การช่วยเหลือ ส่วน นายมนตรี ได้เมาหลับไป

ขณะที่ นายมนตรี รับสารภาพว่า ได้ทำไปเพราะความแค้นที่ถูกภรรยาทิ้ง ยิ่งเห็นหน้าภรรยาคุยกับลูก และภาพหน้าเฟซบุ๊กถ่ายกับชายอื่น จึงอยากทำให้ภรรยาเสียใจ โดยจะฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกทั้ง 2 คน  ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยรู้มาก่อน เพราะทำงานซ่อมรถยนต์ เห็นภรรยาเล่นโทรศัพท์ทั้งวัน แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ภรรยาได้หนีตนกับลูกไปอยู่กับคนอื่น จึงแค้นมาก หากแม่ยายไม่ห้ามก็คงตายด้วยกันทั้งหมด แต่ตอนนี้หายเมาแล้วรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป