เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน จับ'ผู้กองมือปราบ'ค้ายาก่อนเกษียณ
อาชญากรรม
Webmaster
2019-05-08 07:30:00
12
Webmaster
2019-05-08 07:30:00
12
-
สนับสนุนเนื่อหา
"วงการสีกากี" ฉาว! หลังปรากฏข่าว ร.ต.อ.ชัยณรงค์ อ่อยภูธร อายุ 59 ปี รอง สว.(สอบสวน) บก.ภ.จว.นครพนม หรือ "ผู้กองอ้วน" ตกเป็นผู้ต้องหา ถูกทหาร ร้อย ทพ.2102 ร่วมกับ ชป.พิเศษที่ 3 ศอ.ปส.ชอน., กอ.รมน.จว.นครพนม และตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ร่วมกันจับกุมพร้อมของกลางยาบ้า 6,000 เม็ด กัญชาแห้งอัดแท่งหนัก 9.5 กก. อาวุธปืนและเครื่องกระสุนหลายขนาด
เบื้องต้น "ผู้กองอ้วน" ยอมเปิดปากให้การรับสารภาพ โดย อ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เนื่องจากเงินเดือนราชการไม่พอใช้ และมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เร่งขยายผลสาวไปถึง "ผู้บงการ" เครือข่ายค้ายาเสพติด จึงตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งทรัพย์สินทั้งหมดของนายตำรวจผู้นี้
กระทั่งสอบไปสอบมา "ความแตก" ชุดสืบสวนพบว่า "ผู้กองอ้วน" ไปติดพันหญิงสาวชาวลาว มีสายสัมพันธ์เป็น "กิ๊ก" กัน จนถึงขั้นพัฒนาจาก "มือปราบ" กลายเป็น "มือเดินสายค้ายาเสพติด" แถบประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำข้ามมาขายให้กับวัยรุ่นในฝั่งไทย โดยใช้บ้านเป็นที่พักยาเสพติด เตรียมนำของไปส่งให้ลูกค้า แต่ดันมาถูกจับได้เสียก่อน
ส่วนกัญชาอัดแท่งที่หลายคนสงสัย "ผู้กองอ้วน" มีไว้ในครอบครองได้อย่างไร? แม้เจ้าตัวจะพยายาม นั่งยันนอนยัน ว่าได้มาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ฝ่ายทหารและตำรวจ สภ.เมืองนครพนม กำลังสงสัยว่ากัญชาจำนวนนี้อาจเป็น "ของกลาง" ที่ตำรวจนายนี้เคยไปจับมา และ "ยักยอก" มาเก็บไว้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมายเพิ่มเติมอีกกระทง
ขณะที่ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนฝูงต่าง "ช็อก" เพราะ "เบื้องหน้า" ผู้กองอ้วนเป็นคนนิสัยดี มีน้ำใจกับผู้อื่น ที่สำคัญไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ "ชีวิตพลิก" ทั้งที่วันที่ 30 ก.ย.นี้ จะเกษียณอายุราชการ กลับต้องมาถูกจับ เส้นทางราชการสะดุดลงในช่วงบั้นปลายของชีวิต...
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://policenewsvarieties.com
เบื้องต้น "ผู้กองอ้วน" ยอมเปิดปากให้การรับสารภาพ โดย อ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เนื่องจากเงินเดือนราชการไม่พอใช้ และมีค่าใช้จ่ายสูง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เร่งขยายผลสาวไปถึง "ผู้บงการ" เครือข่ายค้ายาเสพติด จึงตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมทั้งทรัพย์สินทั้งหมดของนายตำรวจผู้นี้
กระทั่งสอบไปสอบมา "ความแตก" ชุดสืบสวนพบว่า "ผู้กองอ้วน" ไปติดพันหญิงสาวชาวลาว มีสายสัมพันธ์เป็น "กิ๊ก" กัน จนถึงขั้นพัฒนาจาก "มือปราบ" กลายเป็น "มือเดินสายค้ายาเสพติด" แถบประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำข้ามมาขายให้กับวัยรุ่นในฝั่งไทย โดยใช้บ้านเป็นที่พักยาเสพติด เตรียมนำของไปส่งให้ลูกค้า แต่ดันมาถูกจับได้เสียก่อน
ส่วนกัญชาอัดแท่งที่หลายคนสงสัย "ผู้กองอ้วน" มีไว้ในครอบครองได้อย่างไร? แม้เจ้าตัวจะพยายาม นั่งยันนอนยัน ว่าได้มาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ฝ่ายทหารและตำรวจ สภ.เมืองนครพนม กำลังสงสัยว่ากัญชาจำนวนนี้อาจเป็น "ของกลาง" ที่ตำรวจนายนี้เคยไปจับมา และ "ยักยอก" มาเก็บไว้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมายเพิ่มเติมอีกกระทง
ขณะที่ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนฝูงต่าง "ช็อก" เพราะ "เบื้องหน้า" ผู้กองอ้วนเป็นคนนิสัยดี มีน้ำใจกับผู้อื่น ที่สำคัญไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ "ชีวิตพลิก" ทั้งที่วันที่ 30 ก.ย.นี้ จะเกษียณอายุราชการ กลับต้องมาถูกจับ เส้นทางราชการสะดุดลงในช่วงบั้นปลายของชีวิต...
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://policenewsvarieties.com
