ข่าวสั่งสอบบิ๊กขรก.ผมเพื่อนโชค ปะทะคารมตร.ตรวจใบขับขี่ - kachon.com

สั่งสอบบิ๊กขรก.ผมเพื่อนโชค ปะทะคารมตร.ตรวจใบขับขี่
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) ครั้งที่ 6/62 โดยมีนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติในเรื่องต่างๆ โดยมีวาระประชุมหลายเรื่อง ทั้งเห็นชอบการโยกย้ายข้าราชการตุลาการ สับเปลี่ยนตำแหน่งชั้น 3 และชั้น 4 เห็นชอบการแต่งตั้งบัญชีผู้พิพากษาอาวุโส วาระพิเศษ 1 ส.ค. 62 และวาระที่ ก.ต.รับทราบ นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ที่ได้รับเลือกเป็น ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิ สัดส่วนบุคคลภายนอก เมื่อวันที่  27  ก.พ. 62 ซึ่งได้รับเลือกจากผู้พิพากษาตามกฎหมายใหม่ มาตรา 36 (3) พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม  พ.ศ.2543  ได้ขอลาออกจากการเป็นก.ต. ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 62 

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้หยิบยกเรื่องที่ปรากฎเป็นข่าวดัง กรณีคลิปการขอตรวจใบขับขี่บุคคลซึ่งอ้างตัวเป็นอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และอ้างว่าเป็นเพื่อนกับ ผกก.ในพื้นที่ โดย นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีคลิปภาพ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 โดนเรียกตรวจใบขับขี่ จนมีการกระทบกระทั่งกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจในพื้นที่ สภ.ทุ่งใหญ่ ซึ่งทางศาลยุติธรรมจะตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย


สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมได้เซ็นหนังสือลงวันที่ 10 พ.ค.ให้ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 เข้าชี้เเจงรายงานข้อเท็จจริงตามเรื่องที่ปรากฎ มายังสำนักงานศาลยุติธรรม โดยอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8ได้ทำหนังสือชี้เเจงกลับมาในวันเดียวกัน (10พ.ค.) ซึ่งในการประชุม ก.ต.วันนี้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม จนมีมติตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

ส่วนการสอบข้อเท็จจริงนั้น คณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นจะมีการสอบว่าพฤติการณ์หรือข้อมูลที่ปรากฎดังกล่าว รวมถึงคำชี้เเจงของนายไกรรัตน์เข้าข่ายมีมูลที่จะกระทำผิดวินัยหรือไม่ โดยไม่ว่าผลจะปรากฏอย่างไรต้องจะส่งผลการสอบข้อเท็จจริงไปยังคณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (อ.ก.ต.)พิจารณากลั่นกรองทำความเห็น ก่อนส่ง ก.ต.พิจารณาต่อไป.