'เสี่ยโป้'ร้องกองปราบจับ แก๊งลูกน้องนักการเมืองฝั่งธน
อาชญากรรม
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ เสี่ยโป้ อานนท์ อายุ 27 ปี เน็ตไอดอลชื่อดังได้พา นายณัฐพัฒน์ สุรินต๊ะ อายุ 30 ปี ผู้ประกอบการรับเหมาติดตั้งและรับผลิตอุปกรณ์สัญญาณจราจร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบรายหนึ่งที่เป็นลูกน้องคนสนิทของนักการเมืองรายหนึ่งย่านธนบุรี ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หากไม่ยอมจ่ายเงินดอกเบี้ยเงินกู้ โดยนำคลิปเสียงที่มีการข่มขู่ระหว่างการสนทนา ระหว่างนายทุนเงินกู้กับ นายณัฐพัฒน์ มามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา
โดย นายณัฐพัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตนได้ไปกู้ยืมเงินจากนายทุนเงินกู้รายหนึ่งซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของนักการเมืองพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี ในจำนวนเงิน 290,000 บาท เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์สัญญานป้ายไฟจราจร ของตนเอง โดยไม่มีการทำสัญญาเงินกู้อย่างเป็นทางการ มีเพียงแค่การตกลงกันด้วยวาจา โดยตนรับปากว่าจะยอมจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับนายทุนคนดังกล่าวในอัตราร้อยละ 10 ของเงินที่กู้ยืมมาต่อเดือน
ช่วงแรกที่ยืมเงินมาตนพยายามจ่ายเงินค่าดอกเบี้ยตรงตามกำหนดทุกเดือน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนไม่สามารถนำเงินมาจ่ายค่าดอกเบี้ยให้กับนายทุนคนดังกล่าวได้ เนื่องจากธุรกิจของตนประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงได้โทรศัพท์ไปขอไกล่เกลี่ยเพื่อขอผัดผ่อน โดยจะขอจ่ายให้ในจำนวนเงิน 3 หมื่นบาทต่อเดือน จำนวน10 เดือน แต่นายทุนคนดังกล่าวยังไม่พอใจ พร้อมทั้งพูดจาข่มขู่ตนว่าจะทำร้ายตนและคนในครอบครัวของตน อีกทั้งยังนำตนไปโพสต์ประจานในสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก หาว่าตนเป็นพวกมิจฉาชีพ ทำให้ตนได้รับความเสื่อมเสีย ประกอบกับกลัวว่าคนในครอบครัวจะได้รับอันตรายถูกนายทุนคนดังกล่าวส่งคนมาทำร้าย จึงตัดสินใจนำเรื่องไปปรึกษากับ เสี่ยโป้ ก่อนมาพบตำรวจกองปราบเพื่อร้องขอความเป็นธรรม
"รู้ว่าเป็นคนผิด ที่ยืมเงินมาแล้วไม่มีเงินจ่ายคืนให้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะหนีหรือไม่จ่ายหนี้ เพียงแต่อยากขอเวลาหาเงินก่อน เพราะตอนนี้ธุรกิจของตนประสบปัญหาจริง ๆ อีกทั้งอยากฝากบอกว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ระหว่างตนกับนายทุนเงินกู้คนดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมืองลูกพี่ของนายทุนคนดังกล่าวแต่อย่างใด" นายณัฐพัฒน์ กล่าว
ด้าน เสี่ยโป้ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับฟังเรื่องราวของนายณัฐพัฒน์ แล้วนั้น ตนรู้สึกว่าการเรียกเก็บเงินค่าดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินร้อยละ 10 ต่อเดือนนั้นถือเป็นยอดที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งนายทุนเงินกู้คนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมข่มขู่ทำร้ายร่างกายลูกหนี้ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐควรจะเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาเงินกู้นอกระบบดังกล่าว สำหรับนายทุนคนดังกล่าวนั้น ตนทราบชื่อว่า นายต๋อง แต่ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่ผ่านมาเคยมีประวัติถูกจับเกี่ยวกับคดีอาวุธปืน และเคยมีประวัติทำร้ายร่างกายผู้อื่นหลายครั้ง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดไม่นานมานี้ ก็เพิ่งจะใช้อาวุธปืนข่มขู่หญิงสาวรายหนึ่ง หลังจากมีปากเสียงกันระหว่างการเจรจาซื้อขายรถยนต์ด้วย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐาน ก่อนจะรวบรวมส่งต่อเรื่องให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป