เสี่ยเบนซ์ซิ่งชนรองผกก.ป.ดับพร้อมเมียชดใช้45ล้าน
อาชญากรรม
เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ สน.ศาลาแดงนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี พร้อมนายวีรวุฒิ บำรุงใจ ทนายความ และครอบครัวของ พ.ต.ท.จตุพรงามสุวิชชากุล, นางนุชนาถ งามสุวิชชากุลและเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยของทั้ง2ฝ่ายเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พิทักษ์ พูลพุทธา รอง สว.(สอบสวน)สน.ศาลาแดง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายและเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยนายวีรวุฒิ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุทางครอบครัวนายสมชาย ยืนยันว่าจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด รวมทั้งค่าเลี้ยงดูบุตรสาวทั้ง 2 คน ของผู้เสียชีวิต วันนี้ครอบครัวของพ.ต.ท.จตุพร และ นางนุชนาถ มาตกลงการชดใช้ค่าเสียหายซึ่งได้ข้อสรุปต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า นายสมชาย จะให้ดูแลค่าไร้อุปการะให้กับมารดาของพ.ต.ท.จตุพร เป็นเงิน2.5ล้านบาท และให้ทางครอบครัวของนางนุชนาถอีก 2.5 ล้านบาท ส่วนนี้ได้ลงบันทึกประจำวันต่อหน้าพนักงาสอบสวนไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนลูกสาวทั้ง 2 คน จะมีการมอบเงินให้อีก จำนวนหนึ่ง โดย น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล อายุ 15 ปี และ ด.ญ.พิญาภา งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี ซึ่งหายเป็นปกติและไปโรงเรียนได้แล้วจะได้คนละ 15 ล้านบาท แต่เนื่องจากทั้งคู่เป็นเยาวชนยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในวันพรุ่งนี้ตนจะต้องมีการยื่นเรื่องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ให้เป็นผู้กำหนดคนดูแลจัดการทรัพย์สินทั้งหมดของเด็กทั้งสองคนจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะและจะโอนเงินให้ทันที แล้วกลับมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอีกครั้ง
นายวีรวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้ นายสมชายยังรู้สึกผิด ไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยังทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนทุกวัน เพราะเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ เนื่องจากนายสมชายก็มีลูกสาว2คนที่ยังเรียนอยู่เช่นกัน ทางนายสมชายก็ดูแลครอบครัวนี้อย่างดีที่สุด ดูแลทุกอย่างตั้งแต่ค่ารักษาพยาบาลด.ญ.พิญาภา ประมาณ 1.5 ล้าน ซื้อรถฟอร์จูนเนอร์ใหม่ป้ายแดงให้ 1 คัน ดูแลเรื่องหนี้สินในบัตรเครดิตให้ทั้งหมด ให้ญาติทั้ง2ฝ่าย 5 ล้านบาท ค่าดูแลเด็กอีกคนละ 15 ล้านบาท และอื่นๆอีกรวมแล้วเกือบ45 ล้านบาท หากลูกสาวทั้ง2คนต้องการจะทำงานที่บริษัทของนายสมชายก็พร้อมที่จะรับเข้าทำงานทันที ทุกวันนี้นายสมชายเลิกดื่มเหล้าหันมาดื่มกาแฟ เลิกขับรถ แต่มีคนขับรถ อยากให้เรื่องนี้จบแบบสมบูรณ์และทุกฝ่ายพอใจมากที่สุด ด้านมารดาของพ.ต.ท.จตุพร กล่าวว่า ลูกชายมีนิสัยชอบให้อภัยคน ลูกชายก็ต้องให้อภัยนายสมชายอย่างแน่นอน และถ้าขึ้นศาลฯก็จะแถลงศาลว่าไม่ติดใจใดๆให้ด้วย ขณะที่ ร.ต.อ.พิทักษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจส่งฟ้องนายสมชายทั้งหมด 5ข้อหาตามเดิม ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สั่งฟ้องสาเหตุที่ล่าช้า เพราะเพิ่งสอบด.ญ.พิญาภา แล้วเสร็จ ในส่วนของคู่กรณีทั้ง2ฝ่ายจะตกลงและพอใจกันตรงไหนก็ต้องลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าเจ้าพนักงานทุกครั้ง.