ข่าวล่าโจรโหดใช้ขวานจามสาวใหญ่ พุ่งเป้าอาจเป็นฝีมือ'ผัว' - kachon.com

ล่าโจรโหดใช้ขวานจามสาวใหญ่ พุ่งเป้าอาจเป็นฝีมือ'ผัว'
อาชญากรรม

photodune-2043745-college-student-s

จากกรณี นางฝาตีม๊ะ (มุหย๊ะ) นาคกระวัศ อายุ 52 ปีอยู่บ้านเลขที่ 117 (บ้านปาล์ม 3) ซอย 2  หมู่ 2 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ถูกคนร้ายใช้ขวานทุบศรีษะจนเสียชิวิตคาบ้านเลขที่ตัวเองดังกล่าว ในการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ความว่าคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งน่าจะเป็นฝีมือคนใกล้ชิดหรือาจจะเป็นฝีมือ นายอนันต์ หมิดแสล้  อายุ 47 ปีอยู่บบ้านเลขที่ 40/7 หมู่ 2 ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สามี ที่อยู่กินมามีบุตรด้วยกัน 1 คน เนื่องจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่า สามี มีพฤติกรรมติดยาเสพติดและมักจะทะเลาะห์วิวาททำร้ายผู้ตายอยู่เป็นประจำเมื่อขอเงินจากผู้ตายถ้าผู้ตายไม่มีให้ภายจาหภรรยาเสียชีวิตแล้วพบว่า นายอนันต์ (สามี) ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์รถออกจากบ้านไปบ้านเพื่อนที่ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยบอกว่า จะมาขอพักอาศัยอยู่ด้วยเนื่องจากมีความจำเป็น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่านายอนันต์น่าจะเป็นคนร้ายผู้ที่ก่อเหตุ โดย เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 22 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา  ตามข่าวที่ เดลินิวส์ นำเสนอไปแล้วนั้น
     
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ สภ.มะนัง จ.สตูล พ.ต.อ.พิทักษ์  พุทธวิโร  ผกก. สภ.มะนัง  เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน  สภ.มะนัง พ.ต.ท. นุวัฒน์  ชัยเดช  สารวัตร (สอบสวน) สภ.มะนัง เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ตั้งแต่เกิดเหตุมาโดยมีการสืบสวนสอบสวนติดตามเร่งรัดรายงานผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือทราบและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กำชับสั่งการผ่านทาง ผบก.ภ.จว.สตูลให้สืบสวนสอบสวนติดตามตัวผู้กระทำผิดมาให้ได้โดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ เบื้องต้นนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญพยานบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนไปแล้ว จำนวน 5 ปาก สำหรับในส่วนวัตถุพยานในที่เกิดเหตุนั้น พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีได้ นำส่งไปยังผู้ผู้ชำนาญการเพื่อทำการตรวจพิสูจน์รวมถึงได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลมอหาดใหญ่แล้ว โดยเฉพาะเกี่ยวกับในเรื่องนิติวิทยาศาสตร์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้การสืบสวนนั้นถือว่า มีความคืบหน้าไปมากโดย พอจะรู้ตัวผู้กระทำผิด หรือ ผู้ต้องสงสัยแล้ว                                                                                        
      

“ประเด็นแรงจูงใจการก่อเหตุฆ่าผู้ตาย น่าจะเป็นเรื่องของการทะเลาะวิวาท ของบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวเนื่องจากได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้วพบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านที่ไม่แข็งแรง และยังไม่มีร่องรอยการที่คนร้ายจะบุกรุก หรือ ทำลายสิ่งกีดขวางใดๆเข้าไปทั้งสิ้นแถมที่เกิดเหตุก็ปกติช่วงเกิดเหตุคนในบ้านอยู่ 2 คน คือ ผู้ตาย กับ สามี และได้หายตัวไปในวันเกิดเหตุแล้วเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติการณ์สามีผู้ตายจนถึงบัดนี้ยังไม่เจอตัว แต่รู้ทิศทาง ร่องรอยการหลีกเลี่ยงออกไปในเบื้องต้นนั้นน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง ฉะนั้นในชั้นต้นนี้ ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจทีมงานสืบสวนสอบสวนให้ตามตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่า เจ้าหน้าที่คงจะได้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เร็วๆนี้ซึ่งเบื้องต้นจะสามารถที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นขออนุมัติจับกุมจากตศาลได้ในเร็วๆนี้”

                      

ด้าน นางสอ๊เหล๋ะอะ นาคกะวัศ อายุ 58 ปี (อ่านว่า สะ-แล-อ๊ะ  นามสกุล  นาก-กะ-วัด) พี่สาว (ผู้ตาย) เปิดเผยว่า มีความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากโดยมีคนไปบอกตนตอนเที่ยงคืน ว่า ให้รีบมาดูที่บ้านน้องสาวไม่รู้น้องสาวเป็นอะไรนอนหง่ายในบ้านเรียกอย่างไรก็ไม่ตื่นพอมาเห็นน้องสาวนาทีที่เห็นตนแทบช็อคเป็นเหตุที่คาดไม่ถึงแต่รู้อยู่แล้วว่า เหตุการณ์จะต้องเป็นไปในแนวนี้ แต่ไม่คิดว่า จะเหตุรุนแรงถึงชีวิต สาเหตุที่ทะเลาะกันน่าจะเป็นเรื่องเงินก่อนหน้านี้เคยมีการไปแจ้งความกับตำรวจ แต่ไม่มีหลักฐาน ก็ไม่มีการรับแจ้ง จึงอยากให้ตำรวจตตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้เพื่อชดใช้ในสิ่งที่คนร้ายได้ก่อเหตุกระทำลงไป โดยสามี ผู้ตาย ยังมาทะเลาะกับญาติพี่น้องผู้ตายด้วยโดยพาลมาถึงญาติพี่น้องโดยกล่าวหาว่า ไปยุแยง ภรรยา เขา สามี ผู้ตาย นั้น ติดยาเสพติดมาตั้งนานแล้ว สำหรับ ตัวน้องสาว (ผู้ตาย) นั้น เป็นคนที่มีอัธยาศัยดีมาก ไม่เคยให้ร้ายกับใคร พูดจาดี ไม่พูดจาไม่หยาบคาย ประกอบอาชีพค้าขายมีลูกค้าชื่นชอบ และชาวบ้านรักใคร่เมื่อทราบข่าวต่างก็เสียใจกัน.