'ผู้การโคราช'สั่งเอาผิดหนัก 2หนุ่มไม่เกรงกม.ยำอริในรพ.
อาชญากรรม
จากกรณี เหตุทะเลาะวิวาทกันบริเวณร้านเหล้ายาดองชุมชนตลาดโคกเพชร ภายหลังมีผู้บาดเจ็บคือ นายทนงศักดิ์ พิมิตรอายุ 44 ปี ช่างก่อสร้าง ถูกอาวุธมีดปาดเข้าที่ลำคอและท้ายทอย เป็นแผลฉกรรจ์เลือดอาบ ถูกนำตัวส่ง รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา แต่ภายหลังคู่กรณีกลับไม่ยอมเลิกลา บุกตามมาแทงซ้ำในห้องฉุกเฉิน แต่ทางญาติและพลเมือง รวมทั้งเจ้าหน้าที่รพ. สามารถเขาระงับเหตุและคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้คือ นายปวีร์ สิงห์โห หรือ เหลิม อายุ 31 ปี และนายมงคล สท้านธรณินทร์ อายุ 32 ปี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. พล.ต.ต.วัชรินทร์บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่เพิ่งจะมีข่าวครึกโครมเกี่ยวกับการก่อเหตุทะลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันในรพ. ขณะที่ นายมงคล ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือใช้อาวุธมีดแทง นายทนงศักดิ์จริง เนื่องจากต้องการเข้าไปช่วย นายปวีร์ เพื่อนสนิท ที่กำลังชกต่อยกับนายทะนงศักดิ์ โดยนายปวีร์ ต้องเข้ารับการรักษาในรพ.เดียวกันเพราะบาดเจ็บจากการถูกชกต่อย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ร่วมกันทะเลาะวิวาท และ พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และหากสอบสวนพบว่ากระทำผิดในข้อหาอื่นก็จะได้แจ้งเพิ่มเติมต่อไป
ด้าน นายแพทย์จิรศักดิ์วิจักขณาลัญฉ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมากล่าว ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะเกิดเหตุแพทย์พยาบาลห้องฉุกเฉินกำลังให้การรักษาอาการบาดเจ็บของคู่กรณี 2 คน แต่ยังอารมณ์ค้างจากการทะเลาะวิวาททำร้ายกันมาก่อน จึงเกิดการเขม่นกันซ้ำอีกรอบ ฝ่ายหนึ่งพยายามใช้กรรไกรเครื่องมือแพทย์ไล่ทำร้ายอีกฝ่าย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่พยาบาล รปภ. และพลเมืองดี ช่วยกันระงับเหตุไว้ได้ทัน ก่อนจะเกิดเหตุรุนแรงบานปลาย จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยระงับเหตุ จนสถานการณ์คลี่คลายลงด้วยดียืนยันไม่มีทรัพย์สินใด ๆ เสียหาย และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก หลังเกิดเหตุได้รายงานให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้ว่าราชการ จ.นครราชสีมา รับทราบ พร้อมแสดงความมั่นใจโรงพยาบาลมีมาตรการรักษาความปลอดภัยผู้ป่วยห้องฉุกเฉินอย่างเข้มงวด มีระบบแถบแม่เหล็กสแกนนิ้วมือเข้า-ออกป้องกันคนภายนอกเข้าไปสร้างความวุ่นวาย ทั้งนี้ในโรงพยาบาลไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น หลังจากนี้จะต้องมีมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่เข้มกว่าเดิมอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามคดีนี้ทรัพย์สินไม่ได้รับความเสียหายเหมือนกรณีรพ.อื่น จึงไม่ได้แจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีตัวอย่างแต่ก็กลัวซะที่ไหน? 2โจ๋บุกรพ.ทำร้ายอริอีกแล้ว