'พริตตี้'สงสัยชายหัวร้อนเรียกตรวจ พี่เป็นตร.จริงเปล่า?
อาชญากรรม
จากกรณี โลกออนไลน์ มีการโพสต์คลิปหญิงสาวกำลังมีปากเสียงกับชายขี่รถจยย. แต่งกายครึ่งท่อนลักษณะคล้ายตำรวจราจร ทำทีขอตรวจใบขับขี่ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมให้ดู และขอดูบัตรตำรวจ แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมหยิบให้ดู และบอกให้ผู้หญิงขับรถไปที่ สน.สุทธิสาร จากนั้นขี่รถออกไป พออีกฝ่ายไปถึงโรงพักกลับไม่เจอตัว ทำให้มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก และเรียกร้องให้ตรวจสอบ ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เพราะอาจเป็นภัยกับผู้หญิงถ้าเดินทางเวลากลางคืนนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ร.ต.อ.ศรายุทธ์ สันทัด รอง สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า น.ส.ศรัณญา หรือ น้องทัช (ขอสงวนนามสกุลจริง) อายุ 26 ปี พริตตี้สาวที่อยู่ในคลิป ได้เดินทางเข้าพบตนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่ามมา โดยมีการนำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวมอบไว้ให้เป็นหลักฐานด้วย ทั้งนี้น้องทัชให้การว่า เมื่อช่วงเวลา 15.30 น. วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนกับแฟนและเพื่อนรวม 3 คน ได้ขับรถออกจากห้างย่านรัชดาฯ ขณะกำลังจะเบี่ยงรถลงอุโมงค์ห้วยขวาง ตนได้เปิดไฟเลี้ยวและมีรถจยย.ขี่ตามหลังมา ได้บีบแตรดังยาวหลายครั้ง พร้อมกับตะโกนด่าทอตน
น้องทัช ให้การต่อว่า จากนั้นตนได้จอดรถเพื่อส่งเพื่อนลง ชายที่ขี่รถจยย.เข้ามาประกบด้านข้างคนขับ พบว่าสวมหมวกคล้ายตำรวจจราจร ใส่เสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีดำ ด้านหลังปักตัวอักษรภาษาอังกฤษ "โปลิศ" นุ่งกางเกงขายาวสีน้ำตาล ตนเลยเปิดกระจกถามว่าต้องการอะไร ชายคนดังกล่าวกลับขอดูใบขับขี่ ตนไม่แน่ใจว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เลยไม่ยอมให้ดูพร้อมกับขอดูบัตรตำรวจ และถามว่าอยู่โรงพักไหน อีกฝ่ายไม่ยอมหยิบบัตรและไม่ยอมตอบ แต่จะขอถ่ายรูปใบขับขี่ตน แต่ตนไม่ยอมอีก ชายคนดังกล่าวเลยบอกให้ขับตามไปพบที่ สน.สุทธิสาร ก่อนเร่งเครื่องออกไป ตนจึงขับตามไปที่โรงพักแต่ปรากฏว่าไม่เจอตัว เลยมาแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพราะหากไม่ใช่ตำรวจจริง แล้วมาทำลักษณะนี้ถือว่าเป็นภัยสังคม อีกทั้งถ้าคนอื่นหลงเชื่อมอบบัตรให้ไป อาจนำไปทำสิ่งไม่ดีได้
ร.ต.อ.ศรายุทธ์ เปิดเผยด้วยว่า จากการตรวจสอบคลิป คาดว่าไม่น่าใช้ตำรวจ เพราะหมวกไม่มีรหัสประจำตัว อีกทั้งการแต่งกายครึ่งท่อน และสีกางเกงไม่ใช่สีกากี เชื่อว่าเป็นการแอบอ้าง ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิด ฐานแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานฯ จึงจะสอบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป.
ติดตามชมคลิปเหตุการณ์ได้ที่นี่...คลิก
ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ก TiTuch Sarunya